วิธีดูแลตัวเองของแม่ท้อง เมื่อต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน

วิธีดูแลตัวเองของแม่ท้อง เมื่อต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน

วิธีดูแลตัวเองของแม่ท้อง เมื่อต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากกำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ แต่มีแพลนต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน แบบนี้คุณแม่มือใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนอาจจะรู้สึกกังวลใจกับการตั้งครรภ์ของตัวเอง กลัวว่าระดับความกดอากาศและออกซิเจนที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ เพื่อช่วยทำให้เกิดความเข้าใจที่กระจ่าง และป้องกันความปลอดภัย ให้คุณแม่ตั้งครรภ์พร้อมสำหรับการเดินทาง มีการวางแผนที่ดี และรู้ว่าเวลาไหนควรไม่ควรเดินทางด้วยเครื่องบิน เราลองมาดูคำแนะนำเหล่านั้นกันเลยดีกว่าค่ะ

เตรียมตัวก่อนเดินทางสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

ก่อนออกเดินทางคุณแม่จำเป็นต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมด้วยการนำใบรับรองแพทย์ติดตัวไปด้วย ซึ่งนั่นหมายถึงก่อนเดินทางจะต้องมีการเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพทั้งของคุณแม่และคุณลูกว่าแข็งแรง พร้อมสำหรับที่จะออกเดินทางด้วยเครื่องบินหรือไม่ การตั้งครรภ์ที่ไม่น่ากังวลใจ

แพทย์ก็จะให้คำแนะนำมาเพื่อให้คุณแม่ดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ใบรับรองแพทย์จะเป็นหลักฐานที่ให้สายการบินอนุญาตขึ้นเครื่องได้ มั่นใจได้ว่าจะไม่ไปคลอดบนเครื่องบิน ยิ่งเป็นในช่วงที่กำลังเดินทางไกล ที่สำคัญหากเป็นไปได้ คุณแม่ควรอัพเกรดชั้นที่นั่งของตัวเองจากชั้นประหยัดที่นั่งลำบาก ให้เป็นชั้นพรีเมี่ยมหรือชั้นธุรกิจ เพื่อเพิ่มพื้นที่วางขา ให้สามารถนั่งได้สบายมากขึ้น

การดูแลตัวเองในระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน

เมื่อเครื่องบินเริ่มเดินทางขึ้นฟ้าแล้ว คุณแม่จะต้องดูแลตัวเองด้วยการลุกนั่งและเดินไปมาบ้าง หากนั่นเป็นการเดินทางหลายชั่วโมงติดต่อกัน ซึ่งควรออกมายืดเส้นยืดสายทุกๆ 3-4 ชั่วโมง แต่ต้องเป็นช่วงที่เครื่องบินมีความปลอดภัย ส่วนการแต่งกายให้เลือกสวมใส่ถุงเท้าด้วยเพื่อป้องกันภาวะเส้นเลือดขอด แม้มันอาจจะดูไม่สวย แต่เพื่อลูกน้อยแล้วนี่เป็นสิ่งที่ควรทำ ในระหว่างนั้นก็นอนหลับพักผ่อนให้ได้นานที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน และนอนในท่าที่สบายที่สุด

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มบนเครื่องบินจำพวกชากาแฟ แต่ให้พกน้ำเปล่าหรือนมจืดไปด้วย เพราะในช่วงที่มีการตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีภาวะกระหายน้ำอยู่บ่อยๆ เมื่อเครื่องลงจอดอย่างปลอดภัยแล้ว อย่ารีบร้อนลงจากเครื่องบินจนเกินไป เพราะอาจจะไปกระแทกกับผู้โดยสารคนอื่นจนเกิดการกระทบกระเทือนกับลูกน้อยในครรภ์ได้ ส่วนสัมภาระที่พกไป ก็ควรขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นหากเป็นไปได้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยง ให้ลูกน้อยและคุณแม่ปลอดภัยตลอดการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม คุณแม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์เดือนแรกยังอยู่ในช่วงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้งคุกคาม หรือคุณแม่ที่มีอายุครรภ์มากใกล้กำหนดคลอดแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยเครื่องบินในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นการดีที่สุดค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook