4 สถานการณ์นี้ มี GrabCar ไว้ ยังไงก็รอด!

4 สถานการณ์นี้ มี GrabCar ไว้ ยังไงก็รอด!

4 สถานการณ์นี้ มี GrabCar ไว้ ยังไงก็รอด!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ออกตัวก่อนเลยว่า แต่ก่อนเราเองก็เคยเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ยอมใช้ Grabcar ในแอพพลิเคชั่น Grab เพราะถนัดที่จะโบกแท็กซี่จากข้างทาง จนโดนคนรอบตัวทักว่า เป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวบ่อยๆ ปาร์ตี้ดึกดื่นก็มาก ออกจากออฟฟิศตอนเฉียดเที่ยงคืนก็เป็นประจำ ทำไมถึงไม่ลองใช้เรียกรถผ่าน GrabCar ดูล่ะ น่าจะสะดวกและปลอดภัยกว่าการเรียกแท็กซี่ในเวลาหลังซินเดอเรลลากลับบ้าน

     เพราะโดนถามบ่อยจนไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไรดี ปนกับความอยากรู้ว่าใช้แอปฯ นี้แล้วจะสะดวกขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมถึงได้เชียร์กันจัง สุดท้ายก็เลยคิดว่าลองดาวน์โหลดมาใช้ก็คงไม่เสียหาย แต่กลายเป็นว่าพอลองโหลดมาใช้แล้วติดใจจนใช้เป็นประจำ จนถึงตอนนี้กลายเป็นแนะนำให้คนอื่นใช้ด้วย เพราะมีประสบการณ์ตรงที่ GrabCar ช่วยไว้ในหลายสถานการณ์จริงๆ

     มาดูกันดีกว่าว่า จากประสบการณ์นั่งรถรับจ้างอย่างโชกโชนของเราแล้ว scenario แบบไหนบ้างที่เราได้ GrabCar ช่วยกู้สถานการณ์ไว้มานักต่อนักแล้ว

 

     เงินสดไม่มี เงินในบัญชีไม่เหลือ
     เราเชื่อว่าคงไม่ใช่เราคนเดียวที่เคยออกจากบ้านมาแล้วถึงได้รู้ตัวว่า ลืมเอากระเป๋าสตางค์มา ซึ่งในนั้นมีครบทั้งเงินสดและบัตรเอทีเอ็ม แล้วก็คงไม่ใช่ทุกครั้งที่เรามีเวลาพอจะนั่งรถกลับไปเอากระเป๋าที่บ้าน หรือวิ่งไปยืมเงินเพื่อนเมื่อถึงที่หมาย

     เพราะตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้มาก่อน (และถ้าสารภาพตามตรงคือเป็นประจำ) ยังไม่นับอีกหลายครั้งที่มีกระเป๋าสตางค์และบัตรเอทีเอ็มอยู่กับตัว แต่จะแวะกดเงินระหว่างทางก็ไม่ได้ เพราะตัวเลขในบัญชีเหลือแค่หลักสิบ การเรียกรถผ่าน GrabCar ที่สามารถจ่ายเงินค่าโดยสารผ่านบัตรเครดิต และ บัตรเดบิตได้ ทำให้เรายังสามารถเดินทางไปไหนต่อไปไหนได้ ถึงแม้จะไม่มีเงินสดติดตัว

 

     จะบินไฟลท์ดึกหรือไฟลท์เช้า ก็มั่นใจได้ว่าเราจะถึงสนามบินทันเวลา
     เหตุผลหนึ่งที่เราใช้ GrabCar บ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาเดินทางไปสนามบินที่ต้องนัดให้รถมารับตอนดึกๆ ไปจนถึงเช้าตรู่มากๆ เพราะสามารถจองรถล่วงหน้าได้ (advance booking) ระบุเวลาได้เป๊ะ จากที่เคยใช้งานเอง เมื่อกดนัดผ่านทางแอปฯ แล้ว คนขับจะโทรมาคอนเฟิร์มวันและเวลาอีกที และโทรมาล่วงหน้าก่อนจะเข้ามารับที่บ้านด้วย หรือใครจะเดินทางเป็นแกงค์แล้วจองล่วงหน้า เขาก็มี GrabCarXL ที่เป็นรถตู้เอาไว้บริการด้วยนะ

 

     เมาไม่ขับ แต่ก็กลับบ้านได้
     เราสังเกตว่าเวลาไปแฮงเอาท์กับเพื่อน พอถึงเวลาแยกย้ายกันกลับหลังจากจัดแอลกอฮอล์กันไปประมาณหนึ่ง ซึ่งอยู่ในระดับที่เกินกว่าจะขับรถกลับเองได้ ถ้าเราบอกเพื่อนว่ากลับแท็กซี่ เพื่อนจะเป็นห่วงระดับ 8 แต่พอบอกว่ากลับด้วย GrabCar เพื่อนจะลดระดับความเป็นห่วงเหลือไม่เกินระดับ 2 เพราะฉะนั้นก็เลยได้ข้อสรุปว่า โหลดแอปฯ นี้ไว้ในมือถือ จะเมาเบอร์ไหนก็ยังกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยจ้ะ

 

     เยอะได้ ไม่มีปัญหา
     ที่บอกว่าเยอะในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนเยอะ แต่หมายถึงในสถานการณ์ที่ของเยอะ หรือคนเยอะ เราสามารถเลือกบริการ GrabCar Premium+ ได้ แทน GrabCar แบบปกติที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป เพราะแบบ Premium+ จะมาพร้อมรถขนาดใหญ่กว่าเดิม ของก็ขนได้เยอะ ส่วนเรื่องนั่งนี่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมีแต่รถคันใหญ่ นั่งสบาย จะยืดแขนยืดขา ได้หมด เราถึงได้บอกว่า เยอะได้ ไม่มีปัญหาไงล่ะ

     ถ้าใครต้องเจอกับสถานการณ์อย่างนี้หรือมีแนวโน้มที่จะเจอกับเรื่องแบบนี้เป็นประจำ แนะนำว่าให้ดาวน์โหลดไว้เถอะค่ะ ต่อให้ไม่ได้ใช้ทุกวัน แต่เชื่อเถอะว่าเวลาต้องอยู่ในสถานการณ์เหล่านี้ แอปฯ นี้นี่ล่ะที่จะเป็นตัวช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้นและถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

 

 

 

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook