5 สัญญาณที่บอกว่าคุณงี่เง่าตัวแม่!

5 สัญญาณที่บอกว่าคุณงี่เง่าตัวแม่!

5 สัญญาณที่บอกว่าคุณงี่เง่าตัวแม่!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

แรกรักน้ำจากอ่างล้างจานยังว่าอร่อย แต่พอความรักสุกงอมจนต่างฝ่ายต่างเผยตัวตน ความงี่เง่า มักเข้ามาเยือนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ก็ทั้งสองฝ่ายเสมอ แล้วเวลาเกิดอาการงี่เง่า เราก็มักไม่ยอมรับว่าตัวเองกำลังงี่เง่า แต่เราเลือกที่จะโทษว่าอีกฝ่ายอ่ะ โค-ตะ-ระงี่เง่า สุดๆ โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่มักเสพความงี่เง่าเข้าไปแบบไม่รู้ตัว และถ้าอยากรู้ว่าคุณน่ะมีอาการงี่เง่าหรือไม่ เรามาเช็คจาก 5 ข้อนี้กันเลยดีกว่าค่ะ

arguing

นักประวัติศาสตร์มือทองผู้ช่ำชองในการขุดอดีต             เริ่มจากการทะเลาะกันหรือโดนขัดใจในเรื่องปัจจุบัน พอหาเหตุผลมาสู้ไม่ได้ นางจะเริ่มย้อนเวลาหาอดีต รุ่นน้องคนหนึ่งเล่าให้ฟังเกี่ยวกับอาการช่างขุดคุ้ยของเธอว่า มันเริ่มมาจากแค่เรื่องเล็กๆ ที่เป็นปัญหาระดับชาติของสาวๆ นั่นก็คือ แฟนเธอมักจะอ่านไลน์แล้วไม่ตอบ หรือไม่ก็ตอบช้าชาติเศษ ซึ่งเวลาเขาบอกเหตุผลว่าทำไมเขาถึงตอบช้าหรือถึงกับไม่ตอบ เธอมักจะย้อนเขาอยู่เสมอว่า “แล้วทำไมเมื่อก่อนตอบตลอด ทำไมเมื่อก่อนตอบเร็ว ทำไมเมื่อก่อน...บลาๆๆๆๆๆ  แม้ว่าแฟนเธอจะหาเหตุผลล้านแปดมาบอกยังไง เธอก็ยังคงยืนยันคำว่า “แล้วทำไมเมื่อก่อน” ขึ้นนำหน้าประโยคทุกครั้ง หรือแม้แต่การทะเลาะกันเรื่องอื่นๆ ก็ตาม ถ้าเหตุการณ์ปัจุบัน เหตุผลของหญิงสาวดูอ่อนกว่าฝ่ายชาย เธอจะทำการเจาะเวลาหาอดีตอย่างว่องไว สมองประมวลผลกลับไปยังเหตุการณ์ในอดีตรวดเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าฟาด แล้วพอเธอเจอเหตุการณ์ที่จะเอามาบลัฟอีกฝ่ายได้ ประโยคยอดนิยมจะกลับมาทันที “แล้วทีตอนนั้น ทำไมเธอ....” เป็นแค่บางช่วงเวลาก็พอไหวนะคะ แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ นี่บอกเลย น่าเอือมมากค่ะ!

mouth-34306_960_720

ย้ำคิดย้ำทำ พูดแต่เรื่องซ้ำๆ เดิมๆ             อาการเด่นๆของข้อนี้ บรรดากระทาชายให้ความเห็นตรงกันแทบทุกคนว่า สิ่งที่ดูงี่เง่ามากๆในตัวหญิงสาวข้างกายก็คือ การพูดแต่เรื่องซ้ำๆ วนลูปไปมา เช่น แฟนหนุ่มมีเพื่อนสนิทเป็นผู้หญิง แล้วสนิทกันมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กกะโหลกกะลา แถมผู้หญิงคนนั้นเขาก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตน อาการงี่เง่าคือ พยายามไปซักไซ้ไปปรักปรำว่าเขากับเพื่อนสาวเขาต้อง something wrong กันแน่ๆ ทั้งๆที่เขาเคยอธิบายแล้วว่ามันไม่มีอะไร ก็ยังไม่เชื่อแม้ตัวเองจะตามไปด้วยทุกครั้งเวลาที่เขานัดเจอเพื่อนคนนี้ ก็ยังมองว่า ต้องมีอะไร ต้องมีอะไรแน่ๆ มีอะไรในความสัมพันธ์ชัวร์ๆ แม้ว่าตัวแฟนหรือเพื่อนแฟนจะอธิบายเป็นรอบที่สามล้านห้าแล้วก็ตาม! แล้วก็จะคอยทำท่าทีกระฟัดกระเฟียดใส่เพื่อนสนิทเขาอีกด้วยนะ เคสนี้ผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสนิทของผู้ชายมาเล่าให้ฟัง นางถึงกับเอ่ยปากว่า มนุษย์แฟนที่ทำตัวแบบนี้ โค-ตะ-ระ งี่เง่าเลยว่ะพี่!

telephone-310544_960_720

บรรพบุรุษเป็นไก่ โทร.จิกถามไถ่ทุก 10 นาที             เคสนี้จะเห็นชัดหน่อยเมื่อคนพิเศษไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆยามค่ำคืน รู้ทั้งรู้นะคะว่าเขาไปกับเพื่อน ก็ยังจะโทรจิกอยู่นั่นแหละ เมื่อไหร่จะกลับ กลับได้แล้วมั้ง โทรๆๆๆๆๆๆๆประหนึ่งมีวิญญาณไก่เข้าสิง โทรจนอีกฝ่ายต้องปิดโทรศัพท์หนีไปเลยก็มีค่ะ หรืออีกเคสคือ นัดกันไปกินข้าว ไปเที่ยว ฝ่ายชายมาสาย ฝ่ายหญิงมารอได้สักพัก ไม่เห็นวี่แววว่าชายหนุ่มจะมาสักที ก็โทรเร่งทุก10นาที แบบนี้ก็ไม่ไหว น่ากลัวเกินค่ะ!

social-1206614_960_720

ตำรวจโซเชียล ปราดเปรียวทุกการสืบค้น             สาวๆที่ชอบโซเชียลเป็นชีวิตจิตใจมักไม่พลาดการเป็นตำรวจโซเชียล เริ่มจากเฟสบุ๊คก่อนเลย อ่านทุกคอมเม้นท์ที่มีใครมาเม้นท์แฟนคุณ อ่านไม่พอเจอบุคคลต้องสงสัยตามไปยังเฟสบุ๊คคนนั้นต่อ ตามไปเป็นทอดๆ และไม่ยอมเลิกราง่ายๆประหนึ่งกำลังทำวาระแห่งชาติ นอกจากการตามไปตรวจตราเฟสบุ๊คชาวบ้านชาวเมืองที่ตัวเองไม่รู้จักเพราะมาเม้นแฟนตัวเองแล้ว กรณีที่มีรหัสผ่านเฟสบุ๊คของฝ่ายชาย เธอจะซอกซอนดูทุกอินบ็อก หรือดูว่าเขาไปส่องแฟนบุ๊คแฟนเก่ามาหรือเปล่าอีกด้วย ตรงนี้มันมีวิธีดูค่ะ น้องที่รู้จักเคยทำให้ดู บางคนที่ไม่ลงลึกกับโซเชียลก็อาจไม่รู้ว่าดูได้ แต่ตำรวจโซเชียลเขามีวิธี นี่นั่งดูน้องเขาสาธิตยังรู้สึกอะเมซิ่งไทยแลนด์แดนสยามมากเลยค่ะ ซูฮกในความพยายามจริงๆ ยังค่ะ เฟสบุ๊คไม่พอ ยังเช็คไปถึงอินสตาแกรม และไลน์ ไลน์นี่ถ้าไม่รู้รหัสผ่านของอีกฝ่ายก็จะทำเนียนๆยืมโทรศัพท์มาเล่นเกมส์บ้างอะไรบ้าง หรือไม่ก็อาศัยตอนพ่อคุณทูนหัวเข้าห้องน้ำหรือเผลอวางโทรศัพท์ไว้ เธอจะไปแอบหยิบมาดูอย่างรวดเร็วและวางคืนไว้อย่างแนบเนียนโดยฝ่ายชายไม่สงสัยใดๆทั้งสิ้น แล้วทั้งหมดทั้งมวลที่ไปเจอมา เธอก็จะเริ่มเอามาถามวกวน คนนั้นใคร คนนี้ใคร ทำไมต้องไปเม้นท์บ่อย บลาๆๆๆ หนักเข้าถึงกับห้ามเล่นโซเชียลเลยก็มีนะคะ บางทีก็น่ากลัวไปไหมลองถามใจกันดูนะคะ

girl-147105_960_720

มโนชนะทุกสิ่งแล้วชอบนิ่ง ไม่ยอมพูด             ผู้หญิงกับการมโนเป็นของคู่กันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ชายปวดหัวเมื่อยแฮนด์แน่นเฮดก็คือ เวลาเธอไปเห็น หรือได้ยินอะไรมาที่เธอทึกทักเอาเองว่า มันเป็นเรื่องไม่ชอบมาพากล เธอจะชอบเอาเรื่องราวไปปะติดปะต่อเอาเอง ซึ่งตรงนี้ยังไม่เท่าไหร่ เพราะเธออาจอยากแน่ใจในอะไรบางอย่าง ไม่อยากผลีผลาม แต่บางคนพอจับโน่นนี่นั่นมาปะติดปะต่อกันก็เกิดมโนเป็นฉากๆ เป็นมโนที่ยิ่งใหญ่ จนทำให้เกิดอาการมึนตึงกับชายหนุ่มข้างกายไปโดยปริยาย พอผู้ชายถามว่าเป็นอะไร ก็จะบอกสั้นๆแค่ “เปล่า”  แต่สีหน้าดูหมางเมินและเมินหมางอย่างเห็นได้ชัดขัดกับคำพูดอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ  

จริงๆลองเปลี่ยนจากแสดงอาการงี่เง่า แล้วเปลี่ยนมาทำความเข้าใจกันและกันด้วยเหตุผล  ความสัมพันธ์น่าจะคงทนและยืนยาวกว่าเยอะเลยค่ะ  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook