แอบรักแต่เขาไม่รู้ Vs บอกให้รู้แต่เขาไม่รัก
สมัยสาวสะพรั่งมากๆ จูนและเพื่อนสาวคนสนิทเคยแอบชอบคนๆหนึ่ง(แต่คนละคนกันนะคะ คนเดียวกันเดี๋ยวเป็นเรื่อง^^) เราทั้งคู่ได้แต่แอบมองเขาอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ทำตัวเป็นเพื่อนเป็นพี่เนียนๆไป ลึกๆเราก็รู้ล่ะค่ะว่าอีกฝ่ายเขาไม่ได้คิดเหมือนที่เราคิด ถ้าบอกไปนี่เปอร์เซ็นต์เงิบมี98%เลยทีเดียว จนวันหนึ่งเมื่อความรักมันสุมทรวงเพื่อนตั้งคำถามขึ้นมาว่า “แกว่ารักเขาแต่เขาไม่รู้ กับบอกรักให้รู้ๆกันไปแต่เขาไม่รัก แบบไหนดีกว่ากัน”จากวันนั้นถึงวันนี้ก็หลายปีมาแล้ว จนเมื่อไม่กี่วันมานี้ คำถามของเพื่อนผุดขึ้นมาในความคิดอีกครั้ง เลยเอาคำถามนี้ไปถามความคิดเห็นของหลายๆคน ซึ่งคำตอบของแต่ละคนก็น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะค่ะ:)
แอบรักแต่เขาไม่รู้ สำหรับผู้ที่เลือกตอบข้อนี้มีหลายคนเลยล่ะค่ะ เริ่มจากชายหนุ่มคนแรก เขาเป็นคนที่หน้าหล่อ ยิ้มสวย เป็นคนที่มีเสน่ห์มากกก หากมองแค่ลุคส์ภายนอกอาจจะคิดว่าเขาเลือกตอบข้อหลังได้ แต่เขาเลือกที่จะตอบ แอบรักแต่เขาไม่รู้ เขาให้เหตุผลว่า
“ถ้ามันใช่ เดี๋ยวมันก็ใช่”
ส่วนหญิงสาวอีกคน บุคลิกภายนอกดูห้าวๆ ตรงๆ เป็นคนชัดเจนแต่ก็เลือกที่จะตอบว่า
“แอบรักโดยที่เขาไม่รู้ เพราะยังอยู่ในโหมดบวก โมเม้นต์การแอบรัก เป็นช่วงเวลาของชีวิตที่ตื่นเต้นที่สุด ไม่ว่าเขาจะขยับทำอะไร วิ่ง เดิน หาว หัวเราะ เราก็จะแอบมองเขาตลอด พอเขาหันมาเราก็หลบ ใจเต้นแรงจนควบคุมไม่อยู่ แต่ถ้าเขารู้ว่าเราชอบปุ๊บ โมเม้นต์ตื่นเต้นก็หมดลงทันที”
อีกหนึ่งความคิดเห็นที่น่าสนใจไม่น้อย เธอเป็นหญิงสาวเฮฮา ร่าเริง สดใส เวลาชอบใครมักถ่ายทอดเรื่องราวของคนๆนั้นออกมาเป็นภาพวาด และมักไปในที่ๆคนที่เธอชอบไปอยู่ แต่เธอขอแค่มองเขาเท่านั้น ซึ่งเธอให้เหตุผลว่า
“อย่างน้อยการรักเขาไกลๆ เรายังแอบทำอะไรดีๆให้เขาได้ แต่ถ้าเขารู้แล้วเขาเปลี่ยนไป เราจะไม่สามารถใกล้เขาได้อีก แต่ก็แล้วแต่ปฏิกิริยาของฝ่ายนั้นด้วย ว่าเปิดให้เราแค่ไหน แต่ยังไงก็จะเลือกการแอบรัก เจ็บน้อยดี ไม่อยากเจอความทรงจำแย่ๆ แต่จริงๆอยู่ที่ความแข็งแกร่งของจิตใจเราอ่ะ ถ้าอ่อนแอเลือกตอบข้อไหนก็เจ็บเท่ากัน”
หญิงสาวคิดบวกวัย 20 ปลายๆ ผู้ที่ใช้การแอบรักผลักดันให้เกิด Inspire ในการสร้างความสุขให้ชีตบอกว่า
“การแอบรักแล้วเขาไม่รู้ มันยังได้คุยกันแล้วก็มีโอกาสพัฒนาได้ เขาอาจรักเราเหมือนกันก็ได้ แล้วมันก็เป็นโมเม้นต์น่ารัก ทำให้เรามีแรงผลักดันในชีวิต สมมุติถ้าทำงานที่เดียวกัน ก็จะทำให้เราอยากไปทำงาน อยากทำงานให้ออกมาดีที่สุด อะไรแบบนั้น”
ส่วนความเห็นจากหนุ่มรักษ์โลกวัย 22 ปี ผู้ชื่นชอบการปั่นจักรยานเป็นชีวิตจิตใจ ให้เหตุผลว่า
“ผมเป็นผู้ชายสายเบา รับความเจ็บปวดไม่ได้ ผมขอมีเธอเป็นเพื่อนดีกว่าไม่มีเธอในชีวิตผมเลย”
บอกให้รู้แต่เขาไม่รัก สำหรับคำตอบข้อนี้ เพื่อนสาวสุดมั่นผู้มีอดีตฝังใจกับการแอบรักให้เหตุผลของคำตอบว่า
“ตอบข้อนี้อาจจะเจ็บหน่อย แต่ก็ดีกว่าแอบช่วยโน่นช่วยนี่โดยที่เขาไม่รู้เลย เพราะยังไงก็แล้วแต่ ลึกๆก็อยากให้เขารู้อยู่ดีว่าเรามีตัวตนอยู่ตรงนี้ รู้แต่ไม่รักก็ชัดเจนกันไป เราจะได้รู้ว่าเราต้องยืนอยู่ตรงไหน มันก็จะไปต่อได้เองแหละ ถ้าเขาไม่รู้มันคลุมเครือปวดกบาลสุดๆ เดาไม่ถูกว่าต้องไปทางไหน ทำยังไง แล้วก็จะมโนคิดไปเองว่าอย่างนั้นอย่างนี้ จิตตกสุดๆ”
อดีตสาวเปรี้ยวเข็ดฟันปัจจุบันเป็นมนุษย์แม่ที่รักครอบครัวยิ่งชีพให้เหตุผลว่า
“เจ็บเพราะเขาไม่รัก ดีกว่าเจ็บเพราะเขาไม่รู้ค่ะ เจ็บแล้วจบ ดีกว่าเจ็บแบบไม่รู้จะจบตรงไหน รู้แล้วไม่รักยังเป็นเพื่อนกันได้นะ รักแล้วไม่รู้นี่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน อิ๊อ๊ะนิดหน่อยอาจมโนได้ แต่ถ้าเขารู้แล้วไม่รัก จะได้เบรกตัวเองว่า เขาไม่รัก อย่ามโน อย่ามโน อย่ามโนวววว”
ความเห็นจากชายหนุ่มก็ไม่น้อยหน้า อาเฮียวัย30++ผู้ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวในสนามรักมาแล้วอย่างเชี่ยวชาญให้เหตุผลของคำตอบว่า
“ตอนเด็กๆเคยแอบรักแล้วเขาไม่รู้ ก็มีความสุขดีนะ แต่มันมีความสุขในโลกของตัวเองที่ไม่มีใครรู้ โตมาเลยเลือกที่จะบอกรักเขา เขารู้แต่เขาไม่รักก็โอเค จบ ถือว่าบอกแล้ว ไม่เจ็บ เพราะยังไม่ได้รัก ไม่ได้ผูกพัน บอกๆไปเลย รักก็ดี ไม่รักก็หาใหม่ ความจริงกับปรุงแต่ง ต่อให้ปรุงแต่งแค่ไหนก็หนีรสชาติของความจริงไม่ได้”
ส่วนน้องชายวัยเบญจเพสคนหนึ่ง ผู้นิยามตัวเองว่า ไม่ใช่คนโลกสวย แต่มองทุกอย่างตามความเป็นจริงตอบว่า
“มันเจ็บทั้งคู่นะ แต่ไหนๆเกิดมาแล้วชีวิตเดียว ใช้ให้คุ้มค่า ดูซ้ายดูขวาถ้าเขาไม่มีใครก็บอกไปเถอะ รักแล้วแอบจะรักทำไม รักเขาแล้วก็บอกให้เขารู้ไปสิ อย่างน้อยถ้าจะต้องเจ็บ ก็เจ็บแบบให้เขารู้ความรู้สึกของเราด้วยจะดีกว่า”
ได้เห็นคำตอบหลากหลายแง่มุมกันแล้ว จูนขอตอบบ้างนะคะ
"สำหรับจูนตอบ เขารู้แต่เขาไม่รักค่ะ จริงๆครั้งหนึ่งในชีวิตเคยเลือกแอบรักนะคะ แอบมาตลอด แอบจนชายหนุ่มที่หมายเอาเรื่องหญิงสาวที่เขาชอบมาปรึกษา โทรมาหาจูนเรื่องผู้หญิงคนอื่นทุกวันวี่จนรู้สึกเฟลนึกว่าตัวเองเป็นกระโถนเคลื่อนที่ เขาหงุดหงิดผู้หญิงคนนั้นก็มาลงที่เรา หูยยย! ไม่ไหวค่ะ ก็เลยคิดได้ว่า การที่เราแอบรักมันไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำให้ตัวเองเจ็บปวดรวดร้าวขนาดนั้นนี่ สุดท้ายเลยตัดสินใจบอกเขาไปเลยว่าเรารู้สึกยังไง คือเรารู้ค่ะ ว่าบอกไปแล้วเราโดนปฏิเสธแน่นอน แต่จุดประสงค์ในการบอก คือเราต้องการยุติความเจ็บปวดทั้งปวง ซึ่งดีนะคะ พอบอกไป เรายังเป็นเพื่อนกันได้ และเขาก็ไม่เอาเรื่องผู้หญิงมาปรึกษาเราอีก ตั้งแต่นั้นมา จูนตั้งปณิธานกับตัวเองเลยว่า ถ้ารู้สึกดีกับใคร มีโอกาสบอก ก็บอกไปเถอะค่ะ บอกบนความไม่คาดหวังแล้วจะไม่ทุกข์ค่ะ"
สำหรับโจทย์ที่ว่า แอบรักแต่เขาไม่รู้ Vs บอกให้รู้แต่เขาไม่รัก ไม่มีผิดถูกสำหรับคำตอบหรอกค่ะ เพียงแต่ให้ทำบนพื้นฐานของความถูกต้อง ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ เช่นว่า ถ้าจะบอกรักก็เช็คก่อนว่าเขามีเจ้าของแล้วหรือเปล่า เราจะทำให้ใครเขาร้าวฉานกันไหม ดูดีๆด้วย หรือถ้าจะแอบรัก แอบแล้วมีความสุขไหม ถามตัวเองดีๆ
โจทย์ข้อนี้ไม่มีใครให้คำตอบคุณได้ เพราะจูนเชื่อว่าแต่ละคนมีคำตอบในใจอยู่แล้ว หรือหากยังไม่มีคำตอบแล้วยังว้าวุ่นใจ จูนขอยืมคำตอบจากชายหนุ่มความคิดเห็นแรกมาตอบนะคะว่า “ถ้ามันใช่ เดี๋ยวมันก็ใช่”
