ควรตัดใจหรือจะไปต่อ

ควรตัดใจหรือจะไปต่อ

ควรตัดใจหรือจะไปต่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ช่วงเวลาที่เราได้แอ๊วใครสักคนที่เราหมาย แล้วเขาคนนั้นก็ดูไม่ได้รังเกียจรังงอน แน่นอนว่าโลกสีชมพูมาเยือนทันที ทุกอย่างช่างดูแฮปปี้ดี๊ด๊าไปหมด แต่คนๆหนึ่งเคยบอกจูนว่า “ความรัก แรกๆ มันก็ดี” ตอนนั้นยังเฉยๆกับประโยคนี้ ยังงงด้วยซ้ำว่า ถ้าเรารู้สึกดีต่อกัน มันก็ต้องดีได้ต่อไปเรื่อยๆสิ จะดีแค่แรกๆได้ยังไง ตัดภาพมาโลกแห่งความเป็นจริง พอคนสองคนคุยกันไปเรื่อยๆ ทำความรู้จักกันมากขึ้น ตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายเริ่มแสดงออกมา จนเกิดคำถามนี้ขึ้น ควรตัดใจหรือจะไปต่อดี?

20161016_101037

เหนื่อยใจนักก็พักเถอะ

ตัดใจ รอเริ่มใหม่กับใครที่เข้ากันมากกว่า             ถ้าการกระทำของเขามันทำให้เรารู้สึกบั่นทอนพลังชีวิตมาก จากกำลังใจกลายเป็นคนที่ทำให้หนักใจ ก็ควรตัดใจแล้วรอรักใหม่น่าจะดีกว่า เคยมีเคสของพี่สาวคนหนึ่ง เธอยื้อยุดฉุดกระชากไปมาในความสัมพันธ์กับชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่นาน แม้เขาจะแสดงธาตุแท้ออกมาแล้วว่า เขาเจ้าชู้ เธอรู้แก่ใจแต่ก็ยังถูลู่ถูกังคุยๆ คบๆกับเขาต่อ แต่แล้ววันหนึ่งความอดทนของเธอมันคงเดินทางมาถึงขีดสุด เธอเลือกตัดใจแล้วเดินออกไปจากชีวิตผู้ชายคนนั้น เวลาผ่านไป เธอได้เจอกับผู้ชายคนใหม่ที่ซื่อสัตย์ เสมอต้นเสมอปลาย และทำให้เธอมีความสุขมากๆ นี่ถ้าวันนั้นเธอยังไม่ตัดใจ ป่านนี้เธอคงไม่พบกับความสุขแบบนี้หรอกค่ะ จริงไหมคะ

20161025_123210

ถ้าใจยังไหวก็ไปต่อ

หยุดทำไมถ้าหัวใจยังไหวอยู่...ไปต่อค่ะ             ช่วงเวลาเปิดเผยความเป็นตัวตน ถ้าบางพฤติกรรมจากตัวตนของเขา อาจทำให้เราไม่โอเค ขออย่าเพิ่งตัดสินใจโกยแน่บจากความสัมพันธ์นะคะ ไหนๆก็มีโอกาสได้ทำความรู้จักกันแล้ว ลองทำใจเย็นๆ นึกถึงข้อดีของเขาดูก่อน เพราะบางครั้งเรามัวแต่ไปโฟกัสสิ่งที่เขาทำแล้วไม่ถูกใจ จนเราลืมไปว่าเขาก็มีข้อดีเหมือนกัน อ้อ!แล้วก็ให้พิจารณาพวกฟีดแบ็กของเขาที่มีต่อการกระทำของเราในช่วงเวลานั้นๆด้วยก็ดีนะคะ อย่างเช่น ถ้าช่วงนั้นคุณรู้สึกว่า คุณกับเขาคุยกันน้อยลง แล้วพอคุณตัดสินใจถามเขาตรงๆว่า รู้สึกไหมว่าช่วงนี้เราคุยกันน้อยลง ถ้าเขาบอกเหตุผลมาว่า งานยุ่ง บลาๆ แล้วพยายามมาคุยกับคุณเพื่อไม่ให้คุณรู้สึกแย่ แม้อาจไม่ได้คุยมากเท่าที่เคยคุยกันเพราะติดพันงานหรืออะไรก็ตาม แต่ถ้าเขาพยายามมีฟีดแบ็กบางอย่างกับคุณในช่วงเวลาที่คุณเริ่มสั่นคลอน นั่นก็ถือว่าเขายังแคร์คุณอยู่นะคะ ลองเทียบข้อดีข้อเสีย แล้วชั่งใจดูว่าไหวไหมถ้าเลือกที่จะไปต่อ ถ้าไหวก็ลุย ไปให้สุดค่ะ! อย่างน้อยคุณก็ได้ทำตามหัวใจตัวเองอย่างเต็มที่ ถ้ามองย้อนกลับมา คุณจะไม่เสียดายที่ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว

20160826_172842

จะออกหัวหรือออกก้อย เอาไงดี

จะอยู่หรือจะไปหัวใจยังไม่ชัดเจน

            ในกรณีที่ยังลังเล สองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็อยากจะหยุดเพราะเหนื่อยเหลือเกิน แต่อีกใจทั้งๆที่เหนื่อยก็ยังรู้สึกดีกับคนๆนี้ ยังอยากที่จะไปต่อ ถ้าเกิดภาวะแบบนี้ ลองอยู่นิ่งๆสักพักนะคะ เป็นการทบทวนความรู้สึกตัวเอง ลองอยู่นิ่งๆกี่วันก็ได้ให้หัวใจคลายจากความเหนื่อยดูก่อน พอเริ่มหายเหนื่อยลองฟังเสียงหัวใจตัวเอง ฟังสัญชาตญาณตัวเอง เพราะสัญชาตญาณของคุณ มักจะให้คำตอบที่ดีที่สุดกับตัวคุณ หรือไม่ลองใช้วิธีนี้ดูค่ะ พอดีว่าจูนไปอ่านเจอข้อความนี้จากเพจ KAMONCHANOK PARNJAI ของคุณกมลชนก ปานใจ เขาเขียนไว้ว่า
                “หากคุณกำลังสับสนอยู่ตอนนี้ ลองหยิบเหรียญในกระเป๋าขึ้นมาสักเหรียญนึง แล้วลองลดเรื่องที่สับสนให้เหลือแค่สองเรื่องหรือสองทาง แล้วแทนด้วย "หัว-ก้อย" ถ้าผลออกมาเป็น "หัว" หรือ "ก้อย" ด้านใดด้านหนึ่ง แล้วคุณมีความรู้สึกว่า คุณอยากจะลองโยนเหรียญอีกครั้ง เพื่อให้ได้คำตอบที่ต่างออกไป นั่นแหละค่ะ คือ "เสียงจากใจ" ของคุณที่กำลังบอกคุณว่า ที่จริงแล้วคุณต้องการอะไรกันแน่ เช่นคุณโยนออกก้อย แต่ใจลึกๆ ออกหัว คุณจะรู้สึกว่าต้องโยนอีกรอบ ดังนั้นหัวนั่นแหล่ะที่สัญชาติญาณของคุณบอกไว้ว่ามันใช่กว่า”
            เห็นด้วยกับข้อความนี้นะคะ การลองโยนเหรียญ พอได้ผลออกมาแล้ว เรากลับอยากโยนใหม่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่ส่วนลึกของความรู้สึกเราต้องการ นั่นแหละค่ะ คำตอบที่เรามีอยู่แล้วในใจ บางคนคำตอบมี แต่ไม่อยากยอมรับ ก็เลยหลอกตัวเอง ว่ายังหาคำตอบไม่ได้ สับสน ตั้งสติดีๆ แล้วลองถามใจตัวเองด้วยความสัตย์ดูนะคะ คุณมีคำตอบในใจอยู่แล้ว ลองยอมรับความจริงแล้วตอบตัวเอง ความสับสนมันจะหายไปในบัดดลเลยล่ะค่ะ

  คนที่สมบูรณ์แบบคงจะไม่มี ถ้าจะมีก็คือคนที่เข้ากับเราได้ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะเลือกตัดใจหรือว่าไปต่อ ก็ขอให้สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เลือกจากหัวใจและดีกับใจก็พอแล้วค่ะ  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook