8 สุดยอดสุภาพสตรีที่พิสูจน์คำกล่าวที่ว่า 'ผู้หญิงครองโลก' ได้จริง

8 สุดยอดสุภาพสตรีที่พิสูจน์คำกล่าวที่ว่า 'ผู้หญิงครองโลก' ได้จริง

8 สุดยอดสุภาพสตรีที่พิสูจน์คำกล่าวที่ว่า 'ผู้หญิงครองโลก' ได้จริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จะกี่ยุคกี่สมัย พลังของผู้หญิงก็ไม่มีวันหมดไป ด้วยความสามารถและความกล้าหาญของพวกเธอเหล่านั้น ทำให้โลกของเราต้องจดจำเรื่องราวของพวกเธอตลอดไป ซึ่งเดือนมีนาคมนี้เป็นเดือนผู้หญิงแห่งโลก International Women’s Day เราลองมาดูว่ามีสุภาพสตรีท่านไหนที่เป็นบุคคลตัวอย่างสำหรับคุณบ้าง

 

Melinda Gates

 

Melinda Gates และ Bill Gates สามีของเธอ เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และก่อตั้งองค์กรการกุศลที่บริจาคเงินเพื่อการกุศลด้านต่าง ๆ เป็นจำนวนมากในแต่ละปี

Melinda French เติบโตใน Dallas ในครอบครัวคนชั้นกลางที่ขยันขันแข็ง และได้กลายเป็น Melinda Gates เจ้าของบ้านสุดไฮเทคหลังมหึมาริมทะเลสาบ Lake Washington ที่ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา และกำลังบริจาคเงินหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือคนในประเทศกำลังพัฒนา ผ่านมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation ซึ่งมีทรัพย์สินมากถึง 37,600 ล้านดอลลาร์ และนับเป็นมูลนิธิที่ใหญ่ที่สุดในโลก

นับตั้งแต่ที่เริ่มรักกันใหม่ ๆ Melinda ก็เริ่มพูดถึงเรื่องของการบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น และด้วยการจากไปอย่างไม่คาดฝันของ Mary มารดาของ Bill Gates จากโรคมะเร็งเต้านม จึงเป็นเสมือนแรงบันดาลใจให้พวกเขาทั้งสองก่อตั้งมูลนิธินี้ขึ้นมา

มูลนิธิ Bill & Melinda Gates นอกจากจะบริจาคเงินให้แก่สมาคมโรคมะเร็งของอเมริกาแล้ว ยังบริจาคเงินหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อต่อสู้และกำจัดโรคร้ายต่าง ๆ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก ซึ่งโรคที่สำคัญที่สุดได้แก่ โรค AIDS, มาลาเรีย และวัณโรค นอกจากนี้ ทั้งสองยังช่วยเหลือโรงเรียนมัธยมที่ล้มเหลวในประเทศสหรัฐฯ เอง ซึ่งเป็นจุดที่พวกเขาเห็นว่าถูกทอดทิ้งละเลยในอดีต จวบจนถึงทุกวันนี้ Melinda ก็ยังคงต่อสู้เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ยากไร้และต้องการโอกาสในการรักษาอยู่ทั่วโลก

 

Angela Merkel

 

ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเยอรมนี อยู่ในอันดับสูงสุดของรายชื่อผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกซึ่งจัดอันดับโดย Forbes magazine โดยติดอันดับสูงสุดมาแล้ว 6 ครั้งในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา 

Angela Merkel เกิดเมื่อปี 1954 ในเมืองฮัมบวร์ก มีคุณพ่อเป็นนักบวชศาสนาคริสต์นิกาย       โปรเตสแตนท์ คุณแม่เป็นครู หลังจากเกิดได้ไม่นานคุณพ่อคุณแม่ของเธอได้อพยพไปยังเยอรมนีตะวันออก Merkel จบดอกเตอร์ด้านฟิสิกส์ ทำงานวิจัยเกี่ยวกับทฤษฏีควอนตัม พูดคล่องทั้งภาษาเยอรมัน อังกฤษ และรัสเซีย

Merkel ใช้เวลาอยู่กับงานวิจัยของเธอเป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งในปลายทศวรรษ 80 เธอเริ่มหันมาสนใจการเมือง โดยได้สมัครเป็นสมาชิกกลุ่ม Democratic Renewal ต่อต้านรัฐบาลเยอรมนีตะวันออก

ในแง่ของการทำงาน นักการเมืองที่ได้ร่วมงานกับเธอต่างก็เห็นตรงกันว่า Merkel เป็นคนพูดน้อย เยือกเย็น ไม่โอ้อวด สุภาพและตรงประเด็น เธอเป็นนักฟังที่ดี แม้เธอจะไม่เห็นด้วย แต่ก็จะรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น บางคนบอกว่ามันน่ารำคาญที่เธอไม่ยอมบอกว่าเธอคิดเห็นอย่างไร ไม่ตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ แต่ Merkel บอกว่าเคล็ดลับสู่ความสำเร็จของเธอ ก็คือการไม่เร่งรีบหาข้อสรุป “ฉันชอบที่จะค่อย ๆ มองปัญหาอย่างระมัดระวังเพื่อที่จะตรวจสอบว่ามันจะมีกับดักอยู่ที่ไหนบ้าง” ซึ่งถือได้ว่าเป็นนิสัยของนักวิทยาศาสตร์โดยแท้

 

Sheryl Sandberg

 

เธอคนนี้ลาออกมาจาก Google ด้วยการชักชวนของ Mark Zuckerberg ในปี 2008 เพื่อดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ Facebook ในช่วงที่ Facebook อยู่ในระยะของการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่นอกเหนือจากนั้น เธอยังเป็นที่รู้จักจากบทบาทต่าง ๆ ในวงการอื่นด้วย อย่างเช่น การเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาของอดีตประธานาธิบดีโอบามา, วอลท์ดิสนีย์ และบริษัท Starbucks Coffee เธอเป็นผู้นำทางความคิดแบบก้าวหน้า และ Sheryl ยังใช้ความสามารถของเธอพิสูจน์ให้คนทั้งโลกที่จะเห็นถึงความเป็น "Smart & Hard" ในคนเดียวกัน

ในปี 2001 เธอยังเป็นคนแรกในหมู่พนักงานของ Google ที่ช่วยออกแบบธุรกิจรูปแบบใหม่ให้กับ Google โดยเป็นผู้ริเริ่มการออกแบบการประมูล Keyword เพื่อให้เจ้าจองเว็บไซต์สามารถลำดับเว็บไซต์ของตนเองบน Google ได้ ระบบนี้จะเรียกอย่างเป็นทางการว่า “Google Adword”

 

Oprah Winfrey

 

ผู้หญิงคนนี้ถึงแม้จะเกิดมาจากครอบครัวที่ยากจนและแตกแยก แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับเธอแต่อย่างใด ทุกอย่างในชีวิตที่ได้มาล้วนแต่ผ่านการต่อสู้เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย เป็นผู้หญิงที่มีอาชีพทางด้านสื่อมานานเกือบ 30 ปี รายการในแต่ละวันของเธอสามารถดึงดูดผู้ชมได้มากถึง 14 ล้านคน และเธอยังคงเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของโลก โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นคนผิวดำที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของโลกในศตวรรษที่ 20 อีกทั้งยังเป็นหญิงผิวดำที่ใจบุญและยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา รวมถึงถูกจัดให้เป็นมหาเศรษฐีผิวดำคนเดียวในโลกอีกด้วย

เธอได้รับรางวัลมากมายจากรายการโทรทัศน์และเป็นผู้หญิงผิวสีเพียงคนเดียวที่อุทิศตนให้กับการฟื้นฟูโลก รายการที่เธอจัดนั้นล้วนแต่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเป็นรายการแบบทอล์กโชว์ที่มีเรตติ้งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา และเธอก็ยังได้รับการลงคะแนนเสียงให้เป็นผู้หญิงที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกด้วย

เธอไม่ได้เป็นเพียงแค่เจ้าแม่วงการสื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นนักแสดง ผู้อำนวยการสร้าง โฆษก เป็นเจ้าของหนังสือนิตยสารอีกหลายเล่มด้วยกัน เป็นนักจัดรายการวิทยุ รวมทั้งยังเป็นนักบุญผู้หาทุนช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้ด้วย โดยเธอและเพื่อนสนิทลงทุนบินไปสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เพื่อทำรายการ Oprah Christmas Kindness เป็นรายการพิเศษเพื่อการกุศลเพื่อเผยแพร่ความยากจนในหมู่คนผิวสีในแอฟริกา รายการดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมบริจาคมากมาย และได้รับเงินบริจาคจากผู้ชมทั่วโลกกว่า 7 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยกัน

 

ไปรยา ลุนด์เบิร์ก

 

นักแสดง และนางแบบลูกครึ่งไทย-สวีเดน ที่เข้าวงการมาจากการชักชวนของนักปั้นมือทองอย่าง เอ ศุภชัย เธอมีโอกาสมาโลดแล่นในเส้นทางสายบันเทิงจนประสบความสำเร็จและได้รับการยกย่อง รวมทั้งได้รับรางวัลอีกมากมาย

วัยเด็ก เธอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนนานาชาตินิสท์ NIST International School และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Oxford Brookes ประเทศอังกฤษ สาขาปรัชญา ธุรกิจ และการเมือง 

ล่าสุดเธอได้รับตำแหน่งทูตสันถวไมตรี UNHCR (United Nations High Commissioner for Refugees) หรือ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ซึ่งถือเป็นทูตสันถวไมตรีคนแรกของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย โดยมีบทบาทและหน้าที่ที่สำคัญ คือ ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ลี้ภัยและบุคคลในความห่วงใย เป็นการดำเนินงานผ่านทางโครงการต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราวมีความเป็นอยู่ที่ปลอดภัย ปัจจุบัน มีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ในประเทศไทยจำนวน 102,607 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยทั้งหมด 9 ค่ายที่ตั้งอยู่ใน 4 จังหวัดตามแนวชายแดนฝั่งตะวันตก ได้แก่ ราชบุรี, กาญจนบุรี, แม่ฮ่องสอน และตาก ภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาลไทยและความช่วยเหลือจากองค์กรเอกชนต่าง ๆ (NGOs) ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยงและกะเหรี่ยงแดงจากประเทศเมียนมาร์ประกอบด้วยผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก และคนชรา

 

Anna Wintour

 

Anna Wintour เกิดเมื่อ 3 พฤศจิกายน 1949 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่เธอนั้นไม่ได้หลงใหลในแฟชั่นเมืองผู้ดีเลยแม้แต่น้อย เธอกลับให้ความสนอกสนใจในแฟชั่นของสาวอเมริกันเป็นพิเศษ แม้อายุจะไม่น้อยแล้ว อีกทั้งกาลเวลายังสร้างริ้วรอยแห่งวัยให้มาปรากฏอยู่บ้าง แต่เธอก็ยังถูกจัดให้เป็นผู้ที่ทรงอิทธิพล และได้รับฉายาว่า ‘มาเฟียแห่งวงการแฟชั่น’ เลยทีเดียว นางแบบหรือดีไซเนอร์คนไหนกล้างัดข้อกับแอนนาเป็นอันต้องต้องตกอับทุกคนไป ตัว Anna นั้นมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมแฟชั่นในอเมริกาและการขับเคลื่อนธุรกิจในแวดวงแฟชั่นเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นวงการที่มีเงินไหลเวียนมูลค่าไม่ต่ำกว่าสามแสนล้านดอลลาร์

สาว ๆ ที่ชื่นชอบแฟชั่นคงไม่มีใครพลาดเรื่อง The devil wears Prada ปี ค.ศ.2006 ที่คนไทยรู้จักในชื่อเรื่อง “นางมารร้ายสวมปราด้า” ซึ่งแอนนาเองคือต้นแบบมิแรนด้าในภาพยนตร์ โดยผู้เขียนคือผู้ช่วยส่วนตัวของเธอเองที่ชื่อ Lauren Weisberger

คนนอกวงการอาจมองว่าแฟชั่นเป็นเรื่องของความสวยงาม สาระบางเบา แต่ความจริงในแง่ของเศรษฐศาสตร์มันคือธุรกิจจริงจังที่มีเม็ดเงินเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมหาศาล และต้องการผู้นำอย่างแอนนาซึ่งมีวิสัยทัศน์ มีความทะเยอทะยาน เฉียบขาดในการอ่านเกม มองภาพรวมได้แบบเด็ดขาดและทรงอิทธิพล อันเป็นอิทธิพลที่ได้มาจากการสร้างเครือข่ายพันธมิตรวงการแฟชั่น

เธอมักจะเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดที่เธอคิดว่าใช่สำหรับเธอ ซึ่งนั่นก็คือแฟชั่นในแบบฉบับของเธอเอง โดยเธอมักจะสวมแว่นตาดำขนาดใหญ่อยู่บ่อยครั้ง ว่ากันว่าช่วงแฟชั่นวีค หรือโชว์เด่น ๆ จากห้องเสื้อชั้นนำจะเริ่มไม่ได้ถ้าเธอผู้นี้ยังมาไม่ถึงงาน และแน่นอนว่าในทุก ๆ โชว์เธอจะต้องนั่งที่ Front Row เท่านั้น สำหรับดีไซเนอร์หน้าใหม่นั้น Anna เปรียบเสมือนผู้มีพระคุณเลยทีเดียว เพราะมีดีไซเนอร์หน้าใหม่หลายคนที่มีผลงานโดดเด่นเข้าตาของเธอจนเธอผลักดันให้เขาคนนั้นสามารถก้าวเท้าเข้ามาสู่โลกแฟชั่นได้อย่างสวยงาม

 

Malala Yousafzai

 

นักต่อสู้เพื่อสิทธิทางการศึกษาของเด็กผู้หญิงในปากีสถาน เธอคือเด็กผู้หญิงชาวปากีสถานที่รณรงค์เรียกร้องให้เด็กผู้หญิงได้รับการศึกษาในปากีสถาน เนื่องจากในประเทศมุสลิมบางประเทศ มีการออกกฎไม่ให้เด็กผู้หญิงเรียนหนังสือ ในเดือนตุลาคม ปี 2012 กลุ่มนักรบตาลีบัน บุกขึ้นไปบนรถโรงเรียน และถามหาเด็กที่ชื่อ Malala เมื่อเธอยืนขึ้นเพื่อแสดงตัวก็ถูกจ่อยิงที่ศีรษะ Malala ไม่ตาย และถูกส่งไปรักษาตัวในประเทศอังกฤษ โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นสะเทือนใจผู้คนไปทั่วโลก เมื่อเด็กผู้หญิงอายุเพียง 15 ปีที่รู้จักปกป้องสิทธิของตัวเอง แต่กลับถูกทำร้ายโดยผู้ก่อการร้าย ทำให้คนทั่วโลกหันมามองสิทธิของเด็กในการได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น หลังจากที่เธอหายดี Malala ก็เริ่มต้นการรณรงค์เรียกร้องสิทธิเพื่อการศึกษาสำหรับเด็กผู้หญิงทั่วโลก เธอเดินทางไปกล่าวบรรยายทั่วโลกถึงความสำคัญของการเข้าถึงการศึกษา และในโอกาสที่เธอมีอายุครบ 16 ปี เธอได้กล่าวคำเรียกร้องต่อสหประชาชาติให้มีการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม สหประชาชาติ เรียกวันนั้นว่า “Malala Day” และเลขาธิการสหประชาชาติ นายบัน คี มูน ถึงกับเรียกเธอว่า “Our Hero” รวมไปถึงได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพอีกด้วย

 

 

Emma Charlotte Duerre Watson

 

เกิด 15 เมษายน พ.ศ. 2533เป็นนักแสดงหญิง นางแบบ และนักกิจกรรมหญิงชาวอังกฤษ เกิดในปารีสและเติบโตในอ๊อกซฟอร์ดไชร์ ประเทศอังกฤษ Emma เข้าเรียนในโรงเรียนดรากอนสกูลขณะเป็นเด็ก และเรียนการแสดงที่โรงเรียนสเตจโคชเธียเตอร์อาตส์ สาขาอ๊อกซฟอร์ด เธอเป็นที่จดจำจากการแสดงบทบาทเฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ ในภาพยนตร์ชุดแฮร์รี พอตเตอร์ โดยได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์แฮร์รี พอตเตอร์ถึง 8 ภาค ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544-2554 ซึ่งก่อนหน้านั้นเธอเคยแสดงเฉพาะละครในชั้นเรียนเท่านั้น

แฮร์รี พอตเตอร์ ทำให้ Emma มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และทำให้มีรายได้มากกว่า 10 ล้านปอนด์ เธอยังคงรับงานแสดงอยู่เรื่อย ๆ นอกจากภาพยนตร์แฮร์รี พอตเตอร์ แล้ว ยังมีภาพยนตร์อีกหลากหลายเรื่องที่เธอได้สร้างชื่อเสียงเอาไว้

ตั้งแต่ พ.ศ. 2554 ถึง 2557 Emma แบ่งเวลางานแสดงภาพยนตร์ให้กับการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยบราวน์และวิทยาลัยวูสเตอร์ อ็อกซฟอร์ด จนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยบราวน์ ในสาขาวรรณกรรมอังกฤษเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557

นอกจากนี้เธอยังทำงานเป็นนางแบบในโครงการรณรงค์ของบริษัทเบอร์เบอรี และลังโคม รวมทั้งช่วยออกแบบเสื้อผ้าในนามของที่ปรึกษาด้านแฟชั่นให้กับพีเพิลทรีด้วย

ในปี พ.ศ. 2557 เธอได้รับเกียรติจากรางวัลแบฟตา ให้เป็นผู้ชนะรางวัลสาขาศิลปินบริติชแห่งปี ในปีเดียวกันนั้น เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีขององค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ และช่วยริเริ่มโครงการรณรงค์ฮีฟอร์ชี (HeForShe) ที่รณรงค์ให้ผู้ชายสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย

 

ผู้เขียน สุนิษา ค๊าสตารี iPrice

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook