“ชมพู่ อารยา” จากวันที่ไร้ชื่อเสียง สู่วันที่เข้าใจว่า “วงการคือมายา”

“ชมพู่ อารยา” จากวันที่ไร้ชื่อเสียง สู่วันที่เข้าใจว่า “วงการคือมายา”

“ชมพู่ อารยา” จากวันที่ไร้ชื่อเสียง สู่วันที่เข้าใจว่า “วงการคือมายา”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ชมพู่ อารยา” ไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการมาสร้างผลงานจนเฉิดฉายเพียงปีสองปี ในขณะที่เธอเองก็ไม่ได้มีเพียงความสามารถด้านการแสดง หากแต่ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว เสื้อผ้า หน้าผม รวมไปถึงความชอบอื่นๆ ของเธอกลายเป็นจุดสนใจของคนทั่วไป ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร มีอันต้องตกเป็นข่าวและถูกพูดถึง

 

เวลาหลายสิบปีในวงการบันเทิง ผู้หญิงคนนี้ผ่านร้อนหนาวมามากมาย เธอจึงได้รับรู้รสชาติตั้งแต่การเป็นแค่ตัวรอง ตัวร้าย นางเอกจนปัจจุบันเธอก้าวข้ามความเป็นดาราไปสู่ตำแหน่งซูเปอร์สตาร์ที่คนทั่วไปยอมรับ

เรื่องราวและมุมมองต่อการใช้ชีวิตของซูเปอร์สตาร์ระดับขุ่นแม่ของวงการเป็นอย่างไร เพราะอะไรใครต่อใครจึงปรารถนาให้ชมพู่ไปร่วมงานด้วย ทุกคำตอบของเธอกับ Sanook!Women ที่เดียว

คุณอยู่ในวงการบันเทิงมานาน คิดว่าวงการบันเทิงไทยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

เยอะนะ  ถ้าจะให้นับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา ก็เปลี่ยนแปลงไปหลายๆ มิตินะชมว่า อยากเรื่องข่าว เรื่องอะไรแบบนี้ก็เปลี่ยน ความสัมพันธ์ระหว่างนักข่าวกับดารา เมื่อก่อนเราอาจจะใกล้ชิดกันมากกว่านี้ แต่เดี๋ยวนี้สื่อเยอะขึ้นมาก อาจจะจำกันไม่หมด แล้วยุคของชม ก็จะเป็นช่วงที่ใช้โซเชียลมิเดียน้อย เพราะฉะนั้นคนก็จะรู้จักดาราผ่านทางผลงานของเขาจริงๆ นานๆที ที่จะออกรายการบ้าง youtube อาจจะยังไม่ค่อยมี แต่ว่าเดี๋ยวนี้เหมือนเราสัมผัสเขาได้ง่ายขึ้น การเป็นที่รู้จัก การแจ้งเกิดก็ง่ายขึ้นจากเมื่อก่อน เพราะช่องทางเยอะ ทุกคนมีชาแนล มีแพลตฟอร์มเป็นของตัวเอง อันนี้ก็อีกแง่มุมนึง และเรียกว่าคอนเทนส์ที่เป็นงานของดาราก็เยอะมากขึ้นเช่นกัน ช่องเยอะ ซีรี่ย์ละคร ผู้คนก็เลือกบริโภคได้เยอะมากขึ้น วิธีการเสพก็เปลี่ยนจากที่เคยรอดูละคร เดี๋ยวนี้เสิร์ชดูในคอมพิวเตอร์ตามเว็บก็ได้เปลี่ยนไปเยอะค่ะ

การเปลี่ยนแปลงนี้มันดีสำหรับคุณไหม  แล้วคิดว่ามีข้อดี ข้อเสียอย่างไร

ชมคิดว่ามันคือการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องดี หรือจะต้องเสีย คือในเมื่อมันคือการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นเราก็ต้องปรับตัว การปรับตัวมันไม่ใช่สิ่งที่ง่ายและสบายอยู่แล้ว แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่มนุษย์เราต้องทำ ก็ต้องปรับกันไป บางอย่างอาจจะฟิกกับคาแรกเตอร์ หรือฟิกกับไลฟ์สไตล์เรามากขึ้น แต่บางอย่างมันก็ทำให้เราต้องระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น

ตอนนี้ใครๆ ก็รู้จัก “ ชมพู่ อารยา”  เป็นซูเปอร์สตาร์  ไม่ว่าจะใช้อะไร ทำอะไร มีคนติดตามมากมาย ในอนาคต ถ้ามีคนติดตามลดน้อยลง คุณเตรียมการกับเรื่องเหล่านี้บ้างไหม

ชมว่าก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจว่าอย่าให้การที่มีคนติดตาม มันมีผลกับไลฟ์สไตล์หรือว่าการให้คุณค่าอะไรกับตัวเรา เพราะฉะนั้นชมคิดว่า O.K มันเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อความนิยมมันลดน้อยลง รีแอคส์ของคนที่มีต่อเรามันก็อาจจะเปลี่ยนไป แต่ว่าวิถีชีวิตเราก็คงไม่ได้เปลี่ยนค่ะ เพราะว่าถ้ามันจะกระทบอะไรสักอย่างนึง คือตัดเรื่องงาน เรื่องรายได้อะไรไป ชมว่าหลักๆ แล้วมันคงเป็นเรื่องของสภาพจิตใจถ้าเราพูดในเรื่องเชิงจิตวิทยาคงเป็นเรื่องของสภาพจิตใจเปลี่ยนแปลงไป เราไม่เหมือนเดิมแล้วนะซึ่งตรงนี้ชมว่าถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของวงการมายา ชมก็ไม่ได้มองว่ามันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเราสักเท่าไหร่ เพราะว่าเราก็ยังต้องตื่นมากินข้าวเหมือนเดิม ยังใช้ชีวิตไปตามปกติ (หัวเราะ) เพียงแต่ว่าชื่อเสียงอะไรแบบนี้มันก็คือมายา ชมว่าอยู่ที่ความเข้าใจมากกว่า ถ้าเราเข้าใจมัน เราก็จะไม่ไปยึดติดอะไรมาก

ถ้าย้อนกลับไปสมัย “ ชมพู่ อารยา” เข้าวงการใหม่ๆ และตอนนี้คุณเป็นซูเปอร์สตาร์ คุณอยากบอกอะไรกับชมพู่ อารยาคนนั้น

ย้อนกลับไปบอกตัวเองในวัยเด็กเหรอค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ก็คงจะแอบให้กำลังใจนางบ้าง (ยิ้ม) ถ้ากลับไปดูตัวเองในวันเก่าๆ ก็คงต้องให้กำลังใจ และไม่ได้คิดที่จะแก้ไขอะไรนะคะ เพราะรู้สึกว่าบางทีการที่เราเติบโตมาในยุคที่มีข้อจำกัดอะไรหลายๆอย่างมากกว่าตอนนี้ มันก็เป็นภูมิต้านทานและทำให้รู้จักชีวิตในอีกแบบนึง เข้าใจวงการเพราะเห็นมาเยอะ พอเราอยู่ในยุคที่มีโซเชียลและไม่มีโซเชียล เราก็จะรู้ว่าตรงนี้มันก็เป็นมายานะมันไม่ใช่ทั้งหมดเราอย่าไปยึดติด เพราะเราก็อยู่ในยุคที่ไม่มีมันไม่เคยต้องใช้มัน ก็คงต้องให้กำลังใจนาง เพราะตอนเด็กๆเราก็อาจจะคิดมากกว่าตอนที่เราโต พอมีอะไรมากระทบจิตใจความเข้มแข็ง ความเข้าใจโลกมันก็น้อยกว่าตอนนี้ และไม่ได้อยากไปแก้ไขอะไรก็มันไปแบบนึง (ยิ้ม)

มาถึงจุดนี้แล้ว สิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการเป็นซูเปอร์สตาร์สำหรับคุณคืออะไร

ทุกวันนี้เวลาทำงานไม่ได้คิดว่าเราต้องบอกว่าคำว่าซูเปอร์สตาร์คืออะไร อาจจะเป็นเพราะว่าเราทำงานในวงการมาเป็นระยะเวลานาน ชมมองว่าแรงจูงใจในการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญ ทำมาเยอะ เจอมาเยอะ เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่อาจทำให้เราตื่นเต้นได้ ตรงนี้เราต้องพยายามทำอะไรให้เหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งใหม่ แล้วหาแรงบันดาลใจ ทำยังไงให้รู้สึกว่าการทำงานในแต่ละวันมันยังเป็นเรื่องที่น่าสนุก และก็ท้าทาย อย่าไปยึดติดกับความสำเร็จ อย่าไปคิดว่าฉันเคยได้เท่านี้แล้วต่อไปต้องเป็นเท่านี้ๆ หรือฉันต้องได้เท่านี้เพราะฉันเคยประสบความสำเร็จ คือเราเริ่มนับหนึ่งใหม่หมดแล้วก็ทำยังไงให้มีไฟกับมันตลอด

หลายๆ คนมองว่าคุณคือ “ ซูเปอร์สตาร์” สำหรับคุณคิดว่าตัวเองสมบูรณ์แบบไหม และเป็นแบบที่คนอื่นมองหรือเปล่า

ไม่มีใครเพอร์เฟคหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าเราต้องรักในแบบที่ตัวเราเป็นให้ได้ ต้องภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น

มาตรฐานการทำงานของ ชมพู่ อารยา คืออะไร

ก็ทำพาร์ทของเราไปให้ดี อะไรที่ควบคุมไม่ได้ก็ต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ แม้มันอาจจะไม่ใช่พาร์ทของเราก็ตาม (หัวเราะ) คือชมคิดว่ามันไม่ใช่แค่เวลาอยู่หน้าเซ็ตหรืออยู่ในกอง มันคือช่วงที่เราไม่ได้อยู่ในงานด้วย สมมุติช่วงที่เราต้องโหมงานหนักๆช่วงนี้เรามีถ่ายงานตลอดมันก็เริ่มที่จะกระทบชีวิตส่วนตัวเราช่วงนั้นด้วย จากที่เคยปาร์ตี้ จากที่เคยสังสรรค์มันก็ต้องลดน้อยลงเพราะวันรุ่งขึ้นเราต้องไปทำงาน มาตรฐานของชมมันไม่ใช่แค่อยู่หน้างานแต่ว่า เราก็ต้องรักษาร่าง ประคองสติ และทุกอย่างในวันที่เราต้องไปทำงาน

ตอนนี้ ชมพู่ อารยา ไม่โสดแล้ว คิดว่าการใช้ชีวิตคู่มันยากหรือง่ายสำหรับเรา

มันไม่ควรจะยากนะคะ ถ้ามันยากก็ไม่ควรจะต้องแต่ง (หัวเราะ) แต่ว่าโอเคมันก็ต้องมีการปรับตัวบ้างแหล่ะ เพราะมันไม่ได้คิดถึงตัวเองคนเดียวมันก็ต้องคิดถึงคำว่า “เรา” มากกว่า จะบอกว่าเหมือนเดิมเป๊ะเลยก็ไม่ใช่ แต่ก็ไม่ใช่ยากจนเกินไป

ความทุกข์ที่แสนสาหัสของ ชมพู่ อารยาคืออะไร

แสนสาหัสเลยเหรอ (หัวเราะ) ชมไม่ค่อยมีอะไรทุกข์นะ แต่ไม่ใช่ว่าชีวิตฉันดีเหลือเกินนะ แต่ว่าก็เหมือนคนปกติ ส่วนใหญ่จะคิดว่าอะไรที่เราควบคุมไม่ได้ก็คือควบคุมไม่ได้ มันเหนือการควบคุมของเราแล้วจะไปทุกข์ทำไม แต่ว่าอะไรที่เราพอจะทำได้ก็ลองใช้ปัญญาไตร่ตรองดู แก้ปัญหาให้ผ่านพ้นไปก็แค่นั้นเอง ถ้าเราทำงานหนัก เราเหนื่อยก็เหมือนกับเราอ่อนไหวง่ายกว่าเรื่องที่จะมากระทบจิตใจ รถติด หิวข้าว อะไรแบบนั้นมากกว่า (หัวเราะ)

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ ของ “ชมพู่ อารยา” จากวันที่ไร้ชื่อเสียง สู่วันที่เข้าใจว่า “วงการคือมายา”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook