เมื่อลูกน้อยกินยากกินเย็น

เมื่อลูกน้อยกินยากกินเย็น

เมื่อลูกน้อยกินยากกินเย็น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การกิน

เด็กบางคนกินน้อยแถมยังจู้จี้จุกจิก โน่นก็ไม่ยอมกินนี่ก็ไม่ยอมกิน ชอบของโปรดอยู่ไม่กี่อย่าง จนคุณแม่กลัวว่าลูกจะกลายเป็นเด็กขาดอาหารใช่ไหม

เริ่มต้นลองปรึกษาคุณหมอดูสักนิดว่าจะช่วยให้ลูกรักมีสุขภาพแข็งแรงได้สารอาหารครบถ้วนได้อย่างไร เพื่อความสบายใจถามคุณหมอถึงมาตรฐานน้ำหนักและส่วนสูงของเด็กในวัยเดียวกับลูกของเรา และอาจพบว่าลูกไม่ได้ตัวเล็กกว่าเกณฑ์ปกติ เพียงแต่ต้องพยายามให้ได้รับอาหารครบถ้วนทุกหมวดหมู่และปริมาณตามความต้องการของร่างกาย อีกประการหนึ่งคุณแม่ต้องดูด้วยว่าพ่อแม่หรือคนในครอบครัวมีรูปร่างแบบไหน ถ้าตัวเล็กๆ ผอมๆ ลูกก็จะได้รับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมเช่นนี้ไปด้วย อาจไม่อ้วนท้วนโตไวเหมือนเด็กคนอื่น ๆ

มีเทคนิค 9 ข้อมาฝากสำหรับคุณแม่ที่มีลูกน้อยผู้แสนจะกินยากกินเย็น

1. ตั้งกฎบนโต๊ะอาหาร เช่น ทุกคนในครอบครัวต้องนั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา ปิดทีวี พูดคุยกันด้วยเรื่องสบายๆ อย่าให้ลูกเป็นแค่ผู้ฟังนั่งตาแป๋ว ชวนเขาคุยด้วย

2. บอกลูกว่าต้องนั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารเท่านั้น ห้ามเล่นอาหาร และห้ามให้อาหารสัตว์เลี้ยงระหว่างทานข้าว และเมื่อลูกลุกจากโต๊ะ นั่นหมายถึงลูกอิ่มแล้วเท่านั้น

3. ชมเวลาลูกทำตัวดี โดยเฉพาะตอนที่เขาลองชิมอาหารใหม่ๆ หรือของที่เด็กมักไม่ชอบ เช่นผักต่างๆ

4. อย่าอบรมเรื่องการกินใกล้เวลาอาหาร หรือดุว่าลูกตอนกินข้าว พยายามอย่าให้มื้ออาหารเป็นเวลาลงทัณฑ์ของลูก

5. อย่าบรรยายสรรพคุณคุณค่าของอาหารยืดยาวเกินไป ควรพูดสั้นๆ ก็พอ หรือใช้นิทานภาพช่วยในการอธิบายเพิ่มก็ได้

6. กำหนดเวลาให้ลูกกินข้าวนานไม่เกิน 20 นาที ถ้ากินเสร็จเร็วต้องชมเขาด้วย

7. สำหรับลูกช่างเลือก ให้อาหารที่เขาชอบในปริมาณพอสมควร แล้วตักอาหารที่เขาไม่ชอบใส่จานไปด้วยเล็กน้อย บอกลูกว่านิดเดียวเองต้องกินด้วย แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณอาหารที่เขาไม่ชอบ ดีกว่าการบังคับขู่เข็ญกัน

8. ชวนลูกคิดเมนูอาหารด้วยว่ามื้อหน้าจะทำอะไรกันดี ให้เขามีส่วนร่วม อาจหาหนังสือเมนูอาหารเด็กให้เขาสนุกกับการเลือกด้วยตัวเอง

9. อย่าปล่อยให้ลูกกินขนมก่อนมื้ออาหาร หรือ ดื่มน้ำ น้ำผลไม้ และนม มากระหว่างมื้ออาหาร และก่อนมื้ออาหาร

ทราบเคล็ดลับดีๆ อย่างนี้แล้ว เชื่อว่าเจ้าตัวเล็กสุดที่รักของคุณแม่ต้องแข็งแรงโตวันโตคืนแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook