THANN ร่วมช่วยเหลือ "ช้างไทย" กับ มูลนิธิเพื่อนช้าง จ.ลำปาง

ธัญ (THANN) เดินหน้าสานต่อโครงการ THANN for Thai elephant

เชิญเหล่าเซเลบริตี้ร่วมสร้างสรรค์ออกแบบผลิตภัณฑ์เจลหอม

เพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิเพื่อนช้างอย่างยั่งยืน

สานต่อความตั้งใจอย่างต่อเนื่องกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ THANN for Thai elephant  เพื่อหารายได้ช่วยเหลือมูลนิธิเพื่อนช้าง ล่าสุดผู้บริหารมากฝีมือแห่งแบรนด์ ‘ธัญ’ (THANN) คุณโอ๋ - ฐิติพัฒน์  ศุภภัทรานนท์ ได้ต่อยอดไอเดียจิตอาสา เชื้อเชิญเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังร่วมเดินทางไปยังโรงพยาบาลช้าง อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เพื่อเยี่ยมชมมูลนิธิเพื่อนช้างพร้อมทำกิจกรมมออกแบบเจลหอมภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ช้างและป่า’ สำหรับวางจำหน่ายที่มูลนิธิเพื่อหารายได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลช้างสืบต่อไป ซึ่งเหล่าเซเลบริตี้ที่สนใจไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ได้แก่  เจย์ – จริยดี – เจคกี้  สเป็นเซอร์,  ชนินธิดา จันทรุเบกษา,  ทศพล ธีระวิทยภิญโญ, และไพพรรณี เตชะณรงค์

คุณโอ๋-ฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า ‘ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ผมมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะหาวิธีช่วยเหลือโรงพยาบาลช้าง จึงจัดตั้งโครงการนี้ขึ้นมาและทำต่อเนื่องมากว่า 6 ปี เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์งานของโรงพยาบาลช้าง และนำรายได้ทั้งหมดที่ได้จากการจำหน่ายเซตผลิตภัณฑ์ THANN for Thai elephant บริจาคให้กับโรงพยาบาลช้าง ซึ่งเซเลบริตี้หลายท่านเมื่อทราบข่าวก็ให้ความสนใจและอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา เพื่อมุ่งหวังที่จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้เกิดการตะหนักในการอนุรักษ์ช้างไทย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่คู่บ้านคู่เมืองไทยตลอดไป’

                โรงพยาบาลช้างโดยมูลนิธิเพื่อนช้างเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของโลกที่ถูกก่อตั้งขึ้นในวันที่ 19 ตุลาคม 2536 โดย โซไรดา ซาลวาลา เป็นสถานที่ในการพักพิง และรักษาเหล่าช้างที่ได้รับบาดเจ็บจากทุกกรณีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมถึงการรณรงค์ต่อต้านการทารุณกรรมช้าง ซึ่งตั้งแต่โรงพยาบาลได้มีการก่อตั้งขึ้นมาได้มีช้างที่เคยเข้ารับการรักษามาแล้วกว่า 4,000 เชือก โดยปัจจุบันมีช้างที่อยู่ในการดูแลรักษาประจำทั้งหมด 6 เชือกด้วยกัน รวมทั้งช้างที่ใส่ขาเทียมเชือกแรกของโลก คือ ช้างพังโม่ตาลา อายุ 55 ปี และช้างพังโม่ชะ อายุ 11 ปี โดยทั้ง 2 เชือก เป็นช้างที่ประสบอุบัติเหตุเหยียบกับระเบิดจนขาหน้าขาด ขณะถูกนำไปชักลากไม้ที่ประเทศเมียนมาร์ จึงเข้ามารับการรักษาด้วยการผ่าตัดและใส่ขาเทียมที่ทางมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ จัดทำขึ้นเป็นอันแรกของโลก ล่าสุดทางโรงพยาบาลช้างได้มีโอกาสต้อนรับ ‘พลายมีนา’ ลูกช้างเพศผู้ที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 1 มีนาคม 2560 จากช้างพังโม่มดโล๊ะ มาร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของมูลนิธิฯ

คุณโซไรดา ซาลวาลา ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อนช้าง กล่าวถึงจุดประสงค์ในการก่อตั้งโรงพยาบาลช้างและสถานการณ์ของโรงพยาบาลในปัจจุบัน ‘เราพบเจอกับปัญหาช้างที่ถูกทารุณกรรม ถูกนำมาใช้แรงงานแบบผิดวิธีมาตั้งแต่เด็ก เห็นถึงความละเลยในการดูแลช้างไทยมาตลอด เลยมีความตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือช้างเหล่านี้ จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งโรงพยาบาลช้างแห่งนี้ขึ้น เพื่อคอยช่วยเหลือช้างไร้ที่อยู่และได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ โดยรายได้ส่วนใหญ่ที่เรานำมาใช้จ่ายก็มาทั้งจากเงินบริจาค และการทำของที่ระลึกขาย ค่าใช้จ่ายในแต่ละปี ก็ตกปีละ 9-10 ล้านบาท ซึ่งรายรับที่ได้มาค่อนข้างไม่เพียงพอ หากเกิดกรณีที่มีช้างเข้ามารักษาเป็นจำนวนมาก’

                โครงการ THANN for Thai elephant ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 โดยเกิดจากความตั้งใจของ คุณโอ๋-ฐิติพัฒน์ ศุภภัทรานนท์ ที่ต้องการหารายได้เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้กับโรงพยาบาลช้าง จึงได้จัดทำชุดผลิตภัณฑ์ THANN for Thai elephant ออกจำหน่าย โดยรายได้จากการจำหน่ายชุดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นมอบให้กับมูลนิธิเพื่อนช้าง ซึ่งตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน ‘ธัญ’ (THANN) ได้มอบรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ THANN for Thai elephant ไปแล้วเป็นมูลค่า 1,154,200 บาท อีกทั้งยังเป็นตัวกลางให้ผู้อื่นบริจาคเงินโดยตรงให้แก่โรงพยาบาลช้างอีกด้วย

                ด้านเหล่าเซเลบริตี้ที่ร่วมเดินทางไปทำกิจกรรมครั้งนี้ ได้กล่าวถึงมุมมองที่มีต่อช้างไทยพร้อมเผยไอเดียในการออกแบบเจลหอมของแต่ละคน เริ่มจากครอบครัวเซเลบริตี้นักเดินทาง เจย์-จริยดี สเป็นเซอร์ เผยว่า ‘เราเองเป็นคนที่เห็นช้างมาตั้งแต่เด็กๆ เห็นเขาเป็นสัตว์ที่สวยงามและแข็งแรง คอยช่วยเหลือคนไทยมาตลอด ซึ่งการได้พาเจคกี้มาทำเจลหอมวันนี้ เราก็ปล่อยให้เขาสร้างสรรค์ เลือกของที่อยากใส่ไปในโหลแก้วด้วยตัวเอง เขาก็สนุกกับการทำให้มันมีสีสันสดใส หยิบนู่นใส่นี่ลงไปมากมาย ซึ่งมันทำให้เราฉุกคิดว่าทรัพยากรธรรมชาติมันเหลือน้อยมากแล้วจริงๆ   ส่วนเราเองก็รู้สึกดีใจมากที่มีโอกาสได้มาร่วมกิจกรรมวันนี้ ก็ตั้งใจอยากจะกลับไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการช่วยอนุรักษ์ช้างไทย’ คุณเปิ้ลเสริม ‘เปิ้ลอยากให้เจคกี้ได้มาสัมผัสกับธรรมชาติและรู้จักช้างไทยตั้งแต่ยังเด็ก เพราะเราต้องการปลูกฝังให้เขาได้รู้ถึงคุณค่าของช้าง เหมือนที่เราถูกสอนมาเสมอว่าให้อนุรักษ์ช้างไทยให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้รู้จัก’

            ถัดมาที่คู่หวาน ชนินธิดา จันทรุเบกษา และทศพล ธีระวิทยภิญโญ เล่าว่า ‘เราทุกคนได้เรียนรู้และศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ช้างไทยกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะช้างก็เป็นสัตว์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมานาน และในฐานะคนไทยคนหนึ่ง หมูแดงก็อยากจะมีส่วนร่วมในการช่วยอนุรักษ์ช้างเอาไว้ เพราะทราบมาว่าช้างที่อาศัยอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นช้างไร้ที่อยู่และถูกทารุณกรรมมา เมื่อมีโอกาสก็อยากจะมาเยี่ยมชมที่นี่สักครั้ง ส่วนเจลหอมที่ทำวันนี้ก็เลือกคอนเซ็ปต์สีขาวเป็นหลัก เปรียบเสมือนความนุ่มนวลของช้างที่แม้เขาจะตัวใหญ่แต่เขาก็น่ารัก’ คุณทศพลเสริม ‘เราอยากจะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้คนไทยเกิดการตระหนักและหันมาอนุรักษ์ช้างไทยกันมากขึ้น เพราะไม่อยากให้คนไทยมองข้ามปัญหาช้างที่กำลังจะสูญพันธุ์ ส่วนเจลหอมที่ผมออกแบบวันนี้เกิดจากไอเดียที่ได้ไปเยี่ยมชมพลายมีนากับแม่ของเขามา ก็เลยใส่ต้นไม้หนึ่งต้นที่เปรียบเหมือนครอบครัวของเรา ที่คอยดูแล

เลี้ยงดู เป็นที่พักพิง และมีช้าง 3 ตัวที่เป็นเหมือนผมและพี่น้องอีกสองคน’

            ปิดท้ายที่สาวสวยทายาทอาณาจักรโบนันซ่า ไพพรรณี เตชะณรงค์ เผยว่า ‘เมย์อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมาตั้งแต่เด็กๆ เราก็จะได้เห็นสิ่งมีชีวิตมากมายที่โตมากับธรรมชาติ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์การสูญเสียสัตว์ป่า เมย์ก็จะรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้ง โดยเฉพาะช้างป่าเพราะเขาก็เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสเมย์ก็อยากให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ช้างเอาไว้ เริ่มจากวิธีง่ายๆ โดยการไม่รุกล้ำพื้นที่ป่าหรือใช้แรงงานช้างแบบผิดวิธี ส่วนของเมย์เองในวันนี้ที่มาร่วมทำกิจกรรมกับแบรนด์ธัญ เมย์ก็ตั้งใจออกแบบเจลหอมให้เป็นเหมือนป่าเล็กๆ เปรียบเสมือนบ้านจำลองของช้าง เพราะแท้จริงแล้วเขาก็ต้องการอาศัยอยู่ในที่ที่เหมาะกับเขา’

            ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ช้าง และสนับสนุนให้คนไทยได้ตระหนักและสำนึกในคุณค่าของช้างไทยที่มีต่อประเทศไทยมาช้านาน ด้วยการเป็นกระบอกเสียงร่วมรณรงค์ลดละการรุกล้ำพื้นที่ป่า และใช้แรงงานช้างอย่างผิดวิธี หรือร่วมบริจาคกับธัญในโครงการ THANN for Thai elephant ซึ่งสามารถหาซื้อชุดผลิตภัณฑ์ THANN for Thai elephant set ที่ประกอบด้วยอโรมาเธอราปี แชมพู (Aromatherapy Shampoo), ครีมนวดผม (Hair Conditioner), ครีมบำรุงผิว (Rice Extract Body milk) และสบู่ (Rice Grain Soap Bar) จำหน่ายในราคาชุดละ 250 บาท ได้ที่ร้าน ‘ธัญ’ (THANN) อาทิ ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษร, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม, ชั้น 1 และ 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด, ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ และอีกมากมาย