แม่มือใหม่ควรรู้! อาหารเสริมที่เจ้าตัวน้อยวัย 6 เดือนกินได้อย่างปลอดภัย

เป็นที่รู้กันดีว่า เด็กทารกแรกเกิดจนถึง 6 เดือน ควรให้ดื่มนมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะนมแม่ และสามารถทานอาหารอื่นๆ เสริมได้เมื่ออายุครบ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งก็ทำให้เกิดคำถามในกลุ่มคุณแม่มือใหม่ว่าลูกน้อยวัย 6 เดือนจะสามารถทานอะไรได้บ้าง ดังนั้นมาเช็คไปพร้อมๆ กันเลย

ไข่แดง

ไข่เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอและโปรตีน ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงและการเจริญเติบโตให้กับลูกน้อยได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือย่อยง่ายจึงไม่ทำให้ลูกน้อยเกิดอาการท้องอืด แน่นท้องแน่นอน แต่ต้องเป็นไข่แดงเท่านั้นและควรปรุงให้สุกด้วย

ตับ

ตับ เป็นอาหารเด็กที่ได้รับความนิยมอย่างมากทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามินเอ วิตามินบีและมีโปรตีนสูง จึงมีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเสริมสร้างภูมิต้านทานและบำรุงสายตา เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นให้กับลูกน้อยได้อย่างดีเยี่ยม โดยการให้เด็กวัย 6 เดือนทานตับ ควรต้มให้สุกจนเปื่อยและบดกับข้าวให้ละเอียด และไม่ควรให้ทานมากเกินไปในแต่ละวัน

เนื้อสัตว์

เนื้อสัตว์อุดมไปด้วยโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงโดยตรง ซึ่งหากเป็นเนื้อปลา ก็จะมี DHA ที่เป็นไขมันจำเป็น และมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความจำ บำรุงสมองได้อย่างดีเยี่ยม แต่เนื่องจากเด็กวัยนี้ยังไม่สามารถย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนัก จึงไม่ควรให้ทานเนื้อสัตว์มากเกินไป

ผักและผลไม้

ผักและผลไม้เป็นอาหารที่มีประโยชน์ และย่อยง่าย จึงเหมาะกับเด็กวัย 6 เดือนที่สุด แต่ต้องฉลาดในการเลือกผักผลไม้ให้กับลูก ดังนี้

• ให้ลูกทานผักหลากหลายสี เพราะผักแต่ละสีจะมีวิตามินและให้คุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะทำให้ลูกได้รับวิตามินและสารอาหารอย่างครบถ้วนมากขึ้น
• การเตรียมผักให้ลูกทาน ควรต้มให้เปื่อยและบดรวมกับข้าวจนละเอียด เพื่อให้ลูกทานง่ายขึ้น
• สำหรับผลไม้ ควรเป็นผลไม้แบบนิ่มๆ ไม่ถึงกับแข็งหรืองอมมากเกินไป
• ผลไม้จะต้องไม่มีรสหวานมาก โดยที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็จะเป็นกล้วย และมะละกอนั่นเอง

และนี่ก็คืออาหารเด็กวัย 6 เดือนสามารถทานได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรค่อยๆ หัดให้ลูกน้อยได้ทานอาหารแต่ละอย่างทีละนิด เพื่อให้กระเพาะอาหารได้ทำความรู้จักและย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเป็นการเฝ้าระวังอาการแพ้อาหารในเด็กอีกด้วย นอกจากนี้ควรให้อาหารในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ไม่มากเกินไปนั่นเอง