ตั้งครรภ์นอกมดลูก ภาวะเสี่ยงใกล้ตัวที่แม่ท้องควรใส่ใจ

การตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นภาวะการตั้งครรภ์ผิดปกติ เนื่องด้วยการปฏิสนธิของไข่กับตัวอสุจิผิดตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะฝังตัวอยู่บริเวณท่อนำไข่และปีกมดลูก โดยส่วนนี้ไม่สามารถขยายขนาดเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนได้ จึงเสี่ยงต่อการปริแตก ซึ่งก็เป็นอันตรายถึงชีวิตของคุณแม่เลยทีเดียว ดังนั้นเมื่อตั้งครรภ์นอกมดลูก แพทย์จึงต้องพิจารณาผ่าตัดออก เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่นั่นเอง

อาการแสดง เมื่อตั้งครรภ์นอกมดลูก

เมื่อตั้งครรภ์นอกมดลูก แรกๆ จะไม่มีอาการผิดปกติ แต่จะมีอาการแพ้ท้องเหมือนคนตั้งครรภ์ทั่วไป ซึ่งอาการผิดปกติมักจะเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ได้ 7 สัปดาห์ไปแล้ว โดยมีอาการที่สังเกตได้ดังนี้

• ปวดท้องอย่างรุนแรง มีลักษณะปวดบีบเป็นพักๆ คล้ายกับปวดท้องโรคกระเพาะอาหาร และในบางรายก็อาจปวดร้าวไปถึงหลังและไหล่ได้เช่นกัน
• มีอาการหน้ามืด ใจสั่น คล้ายจะเป็นลม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผลเนื่องมาจากอาการเลือดออกในช่องท้องหรือท่อนำไข่แตก ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน

สาเหตุและภาวะเสี่ยงตั้งครรภ์นอกมดลูก

1.ผู้ที่เคยเป็นโรคปีกมดลูกอักเสบมาก่อน เพราะเซลล์ Cilia อาจถูกทำลายไปบ้าง จนทำให้การทำงานขอท่อนำไข่ผิดปกติ เป็นผลให้ตัวอ่อนไม่สามารถเคลื่อนตัวไปฝังในโพรงมดลูกได้นั่นเอง ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดเลยทีเดียว

2.ในผู้หญิงที่มีบุตรยาก ซึ่งจะมีโอกาสท้องนอกมดลูกสูงมากถึง 4 เท่า เนื่องจากท่อนำไข่อาจมีความผิดปกติหรือตีบตัน เมื่อตั้งครรภ์ ตัวอ่อนจึงไม่สามารถเคลื่อนไปยังโพรงมดลูกได้ ส่งผลให้ท้องนอกมดลูกในที่สุด

3.การสูบบุหรี่ โดยจะมีความเสี่ยงในการท้องนอกมดลูกสูงถึง 3.5 เท่า เพราะสารพิษในบุหรี่ อาจเข้าไปทำลายการทำงานของมดลูก จนทำให้เกิดความผิดปกติได้

4.การทำหมันถาวร แม้จะทำหมันแล้วแต่ก็ยังมีโอกาสท้องได้เหมือนกัน และส่วนใหญ่ก็จะเป็นการท้องนอกมดลูก ซึ่งเป็นอันตรายมาก โดยมากจะพบได้ในผู้หญิงที่ทำหมันไปแล้ว 2 ปี

5.เคยตั้งครรภ์นอกมดลูกมาก่อน ซึ่งจะมีแนวโน้มตั้งครรภ์นอกมดลูกอีกประมาณ 10%-25%

6.ใช้ห่วงอนามัยในการคุมกำเนิด โดยจะทำให้เสี่ยงต่อการท้องมดลูกสูงถึงร้อยละ 3-4 ในกรณีที่ตั้งครรภ์ขณะที่คุมกำเนิดอยู่

การตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นภาวะการตั้งครรภ์ผิดปกติที่พบได้บ่อย ซึ่งก็มีความอันตรายเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติ และส่อแววว่าจะเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจอัลตราซาวน์ทันที เพื่อจะได้ทำการผ่าตัดออกอย่างเร่งด่วน ก่อนที่บริเวณตัวอ่อนฝังอยู่จะปริแตกออกมานั่นเอง