5 วิธีหาคู่ในโลกออนไลน์

When The Clock “Click”

แน่นอนที่ทุกคนชอบสิ่งสวยงาม ดังนั้นรูปสวยของเขาหรือเธอในโพรไฟล์ จึงเป็นจุดที่ดึงดูดความรู้สึกให้เคมีในตัวของเราตื่นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในยุค 90’s เป็นต้นมา ที่ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับการได้พบปะกันในโลกออนไลน์มากกว่าการนัดพบแบบตัวต่อตัว แต่ในโลกออนไลน์ ทุกสิ่งจะจู่โจมเข้ามาหาเราอย่างไม่มีทางป้องกันตัวได้ มันเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่เรียกว่า Storm Relationship ที่เกิดอย่างรวดเร็วและรุนแรงเหมือนพายุ โดยที่เราก็จะตอบรับหรือปฏิเสธได้ยากมากเพราะทุกอย่างพุ่งตรงเข้ามาหาตัวอย่างจู่โจม

Post Your Photo

แน่นอนว่าทุกคนอยากให้รูปโพรไฟล์ของตัวเองดูดีที่สุด แต่จงอย่าลืมกฎเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ เพราะมันจะช่วยให้ภาพลักษณ์โดยรวมของคุณดูดีอย่างตลอดรอดฝั่ง

1. โพสต์รูปที่เป็น “รูปปัจุบัน” ที่สุด เพราะนี่คือมารยาทที่จะทำให้คนที่มาพบตัวจริงของคุณไม่รู้สึกว่าเขาถูกหลอก

2. อย่าโพสต์รูปที่มีคุณอยู่กับคนอื่นซึ่งอาจทำให้เดาได้ว่าเป็นแฟนเก่าของคุณหรือแม้แต่รูปที่แสดงได้ว่า คุณเลือกที่จะถูกแวดล้อมแต่กับคนที่หล่อๆ เท่านั้น เพราะมันไม่มีความจำเป็นอะไรที่คุณจะต้องประกาศตัวเองแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิง 

3. อย่าโพสต์แต่รูปที่มีการแต่งภาพอย่างมากมายจนดูแล้วไม่เหมือนตัวคุณเลยสักนิด

Writing a Profile Etiquette

ไม่สำคัญว่าในโลกออนไลน์จะมีคนที่บอกเล่าถึงตัวเองอย่างซื่อสัตย์อยู่กี่คน เพราะทุกคนย่อมพยายามให้ตัวเองเป็น “จุดสนใจ” ได้มากที่สุด โดยการดึงจุดเด่นหรือสร้างจุดเด่นของตนให้ปรากฎ แต่จากการศึกษาพบว่าไม่มีเรื่องราวในโพรไฟล์ของใครเลยที่เขียน “ความจริงทั้งหมด” เกี่ยวกับตัวตนของตัวเอง แต่หากคุณต้องการความรักที่ยั่งยืนในโลกออนไลน์ ก็มีเรื่องพื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ บางเรื่องที่จะทำให้คุณระลึกไว้ในการทำโพรไฟล์ของตัวเอง ดังนี้

1. อย่าโกหกอะไรในโพรไฟล์ของคุณ และอย่าละเลยที่จะบอกบางอย่าง เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของการโกหกด้วยเช่นกัน

2. อย่าอ้างถึงบุคคลอื่นพร่ำเพรื่อ หรือแสดงจุดประสงค์ชัดเจนเกินไปในเวลาที่ยังไม่เหมาะสม อย่างโพสต์เพลง Come On Baby Light My Fire หลังจากคุยกับเขาแค่หนสองหน เพราะมันเป็นสิ่งไม่สุภาพและทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดจนเริ่มถอยห่างจากคุณไปในที่สุด 

3. ตรวจทานตัวสะกดและการใช้ภาษาให้ถูกต้องเสมอ อย่าละเลยเรื่องนี้เป็นอันขาด

Your Intimacy Words

สำหรับคนที่กำลังจีบกันอยู่ การส่งข้อความใดๆ หากันในโซเชียลมีเดีย เป็นธรรมดาที่ต่างฝ่ายต่างอยากทำให้คนที่เรากำลังคบอยู่ รู้สึกว่าเรามีภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์พร้อมสำหรับเขา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเรียกการสร้างสิ่งนี้ว่าเป็น “Transference” และเพื่อเป็นการเช็คตนเองว่าคุณเป็นแบบที่ว่านี้ไหม เราขอให้คุณได้ทำตามขั้นตอนข้างล่างดังต่อไปนี้

1. อ่านทวนข้อความทั้งหมดที่ตั้งใจจะส่งให้เขา และบอกตัวเองว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ตามสิ่งที่คุณว่านั้นหรือไม่ก่อนจะกดปุ่ม Send

2. ถามตัวเองหลังจากประโยคทุกประโยคที่พิมพ์ไปว่า “ฉันตั้งใจจะส่งคำพูดแบบนี้ไปให้คนที่เพิ่งพบในโซเชียลได้ไม่นานแบบนี้จริงๆ หรือ”

3. หากคุณไม่แน่ใจว่าควรจะส่งมันไปดีไหม ขอให้ลองอ่านประโยคนั้นๆ ออกมาดังๆ เพื่อดูว่าเวลาที่มันออกมาจากปากคุณฟังดู “เป็นธรรมชาติ” หรือเปล่า หรือเมื่อพูดออกมาแล้วมันทำให้คุณรู้สึกอายหรือรู้สึกผิด ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้นล่ะก็อย่าส่งไปจะดีกว่า

4. เมื่อส่งข้อความหากันแล้ว ให้เปลี่ยนมาโทร.หากันหลังจากนั้นสักสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ เพราะการได้ยินเสียงจะทำให้คุณประเมินความรู้สึกจริงๆ ของเขาที่มีต่อคุณได้ และยังทำให้สองคนรู้สึกต่อกันว่าแต่ละคนมีตัวตนอยู่จริงๆ ไม่ใช่อยู่แต่ในไทม์ไลน์หรือเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน

In Social Media,
Everyone Can Hear Your Lie

การที่คุณโกหกสิ่งใด ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นแต่ทุกคนก็จะได้ยินคำโกหกนี้ของคุณด้วย และมันจะทำให้ทุกคนในโซเชียลเห็นว่าคุณเป็นคนที่ไม่จริงใจและหมดความเชื่อถือ อย่าลืมว่าเมื่อคุณอยู่ในโลกออนไลน์ กิจกรรมทั้งหมดของคุณที่โพสต์ลงไปก็จะง่ายต่อการดู ซึ่งสิ่งเห็นนี้แหละสามารถจุดไฟความรู้สึกทางลบให้กันอย่างดีที่สุด อย่างไรก็ตามหลังจากที่เริ่มสร้างความสัมพันธ์กันในโลกออนไลน์แล้ว ถ้าสองคนคิดว่าเคมีตรงกันก็ควรจะมีการพัฒนาความสัมพันธ์ขั้นต่อไปที่จะได้พบปะตัวจริงของกันและกันบ้าง เพื่อหาจุดศูนย์กลางที่มั่นคงของการคบหาร่วมกัน เช่น มีกลุ่มเพื่อนเดียวกัน ทำงานด้วยกัน หรือทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีในโลกโซเชียลไปสู่โลกความจริงที่ยั่งยืนในอนาคต