เปิดใจครั้งแรกจากผู้กำกับเอ็มวีสุดร้อน ”เผด็จเกิร์ล”

เปิดใจครั้งแรกจากผู้กำกับเอ็มวีสุดร้อน ”เผด็จเกิร์ล”

เปิดใจครั้งแรกจากผู้กำกับเอ็มวีสุดร้อน ”เผด็จเกิร์ล”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ด้วยชื่อเพลง เผด็จเกิร์ล ก็เล่าถึง เผด็จการอยู่แล้ว ซึ่งทางวงก็ให้เราเอาไปตีความจากเพลงมาก่อน เรากับพี่โตก็เลยคิดร่วมกันว่า ถ้าพูดถึงคำว่าเผด็จการ ก็จะไปนึกถึงเกาหลีเหนือ ที่มีผู้นำเป็นใหญ่ การทำอะไรที่มีรูปแบบเป็นแพทเทิร์น เราก็เลยได้ไอเดียมาจากตรงนั้น”

หลังจากที่ มิวสิควิดีโอล่าสุดของวง แทททู คัลเลอร์ เพลง “เผด็จเกิร์ล” จากอัลบั้ม “สัตว์จริง” ถูกปล่อยให้เราได้รับชมกัน ก็เกิดเป็นกระแสมากมายบนสังคม หลายคนมองว่าเอ็มวีตัวนี้ แอบแฝงนัยยะทางการเมืองเอาไว้หลากหลายแง่มุม

GM Live ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษหนึ่งในสองผู้กำกับเอ็มวี ตัวนี้ “เบนซ์ นิษฐกานต์ แก้วปิยสวัสดิ” ผู้กำกับสาวสวยรุ่นใหม่วัย 23 ปี ดีกรีบัณฑิตจากสาขาวิชาภาพยนตร์และดิจิทัล มีเดีย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ตัวเอ็มวีถูกหลายคนตีความไปต่างๆ นานา ทั้งในเรื่อง กฎ 44 ข้อ, ตัวพระเอกที่ทรงผมสั้นใส่เสื้อเขียวกางเกงขาสั้น, ท่าทางการปิด หู ปิดตา และ เรือดำน้ำ สัญลักษณ์เหล่านี้ สื่อนัยยะถึงอะไร?

นี่คือบทสัมภาษณ์พิเศษของเธอคนนี้...



จุดเริ่มต้นในงานด้านการกำกับ?
เราเรียนจบภาพยนตร์มา ก็มีแพสชั่นว่าอยากจะเป็นผู้กำกับ และเราก็พยายามทำโปรไฟล์เก็บพอร์ต ของตัวเองมาเรื่อยๆ เริ่มจากงานเล็กๆ เช่นการทำ ถ่ายแฟชั่นฟิล์มให้กับนิตยสาร Wallpaper พอมีคนเห็นเราพอทำได้ ก็มีคนจ้างเราไปถ่ายแฟชั่นฟิล์มให้แบรนด์เสื้อผ้าของเขา ก็เลยเริ่มได้กำกับงานตรงนั้น โดยการกำกับเอ็มวีครั้งนี้ถือเป็นงานกำกับใหญ่ชิ้นแรกในชีวิต

มาทำงานร่วมกับแทททู คัลเลอร์ ได้อย่างไร?
เริ่มจากที่พี่โตเจ้าของ Dylan Film ที่เป็น Co-Director ด้วยกันในเอ็มวีเพลงนี้ เขาเคยกำกับงานให้กับทางสมอลล์รูม มาก่อน มีวันหนึ่งเขามาพูดกับเราว่า “เออเนี่ยพี่มีโปรเจกต์หนึ่งจากสมอลล์รูม เป็นเอ็มวีของแทททู คัลเลอร์ สนใจมาทำด้วยกันไหม” ตอนนั้นเราเองก็อยากทำงานพวกนี้อยู่แล้ว ก็เลยตอบตกลงไปแบบไม่ปฏิเสธเลย หลังจากนั้นพี่โตเขาก็ชวนไปคุยกับพี่ๆแทททู คัลเลอร์ที่สมอลล์รูมเลย

ทางวงมีส่วนร่วมอย่างไร เกี่ยวกับเอ็มวีนี้บ้าง ?
มีส่วนร่วมมากๆคะ เพราะมันมาจากอินไซด์ของพี่ๆ สมาชิกในวง โดยทางวงก็พูดกับเราว่า วงเขาหายไป 3 ปี กลับมาครั้งนี้อยากให้มิวสิค วิดีโอ เป็นอะไรใหม่ๆ ที่คนไม่เคยเห็นเกี่ยวกับแทททูมาก่อน ทางวงอยากให้ออกมาดูเป็นเหมือนหนัง Art Direction ซึ่งมันก็เข้าทาง Dylan เข้าทางเราพอดี ซึ่งโดยส่วนตัวเราก็ถนัดทำหนังไปในแนว Fashion Art Direction อยู่แล้ว

ไอเดีย ของเอ็มวีตัวนี้มาจากไหน ?
คอนเซ็ปต์ของวงค่อนข้างจะชัดเจนอยู่แล้ว ด้วยชื่อเพลง เผด็จเกิร์ล ก็เล่าถึง เผด็จการอยู่แล้ว ซึ่งทางวงก็ให้เราเอาไปตีความจากเพลงมาก่อน เรากับพี่โตก็เลยคิดร่วมกันว่า ถ้าพูดถึงคำว่าเผด็จการ ก็จะไปนึกถึงเกาหลีเหนือ ที่มีผู้นำเป็นใหญ่ การทำอะไรที่มีรูปแบบเป็นแพทเทิร์น เราก็เลยได้ไอเดียมาจากตรงนั้น แล้วก็รู้สึกว่าเราจะผนวกให้เข้ากับเรื่องของความรักของคนในเพลงนี้ได้อย่างไร หลังจากนั้นเราก็มาดูว่าเราสามารถจับอะไรมาถ่ายทอดได้บ้าง

จะเห็นว่าตัวเอ็มวี ถูกหลายคนตีความไปทางการเมืองอยู่ คุณตีความพวกนี้อย่างไร ?
จริงๆ เราก็มองว่ามันเป็นการหยอกล้อน่ารักๆ เราไม่ได้ตั้งใจแบบว่าฉันจะต้องด่าการเมืองนะ คือเราไม่ได้ตั้งโจทย์ไว้อย่างนั้น เราตีความว่าเผด็จการที่เราเจออยู่ในสังคม กับเผด็จการในความสัมพันธ์ มีหลายๆอย่างที่คล้ายกันอยู่ เราเลยหยิบส่วนนี้มาเล่น อย่าง 44 rules หรือที่หลายๆคนตีความ เรามองว่าก็เหมือนคู่รักคู่หนึ่งที่อยู่ด้วยกัน แล้วผู้หญิงมักมีกฏว่าผู้ชายต้องเป็นแบบนี้ๆสิ ซึ่งแน่นอนว่าเพราะรักผู้ชายก็ต้องยอมแหละแต่จริงๆเต็มใจมั้ยอีกเรื่องนึง ไม่ต่างอะไรกับพวกเราตอนนี้ที่ต้องอยู่กับกฏที่เราก็ไม่ได้ได้มีส่วนร่วมในการตั้งมันขึ้นมาแต่ก็ต้องอยู่ให้ได้แหละ (ด้วยความรักชีวิตอะนะ 555)

มีหลายคนชมเอ็มวีแล้ว นึกถึงวรรณกรรมเรื่อง 1984 ของ จอร์จ ออร์เวลล์ ที่เขียนถึงเผด็จการ คุณศึกษาเรื่องนี้มาก่อนไหม ?
ต้องยอมรับเลยว่าไม่ได้เป็นคนศึกษาเรื่องการเมืองแบบลึกมาก อย่างตัว 1984 เราก็พึ่งมาเห็นในคอมเมนต์วันนี้ แล้วก็รีบไปหาหนังเรื่องนี้มาดูเลย ซึ่งดูแล้วเราก็อินมากๆ เพราะเราไม่อยากให้อนาคตเป็นแบบในหนังแน่ๆ ตอนทำเราแค่คิดว่าทำออกมายังไง ให้คนจะรู้สึกว่าสถานการณ์ที่เราเผชิญกันอยู่เนี่ยเรียกว่า เผด็จการ

หลายคนมองว่าเอ็มวี ตัวนี้จงใจให้เรามีการตีความ ?
จริงๆ ก็จงใจนะ ทั้งเราและพี่โตไม่ได้อยากทำเอ็มวี ให้แค่ดูสวยหรือสนุก เราแค่คิดว่าการใส่อะไรไปให้คนได้ตีความมันคงดี เหมือนทำให้คนดูได้ฉุกคิดอะไรจากความเพลิดเพลินที่ดูงานเราซึ่งเราว่ามันจะทำให้คนดูสนุกกับหนังมากขึ้น เหมือนเล่นเกมส์จับผิดภาพอะไรแบบนั้น ซึ่งยอมรับว่าคนดูเก่งมาก อย่างรายละเอียดเรือดำน้ำ ซึ่งตอนตัดกลัวคนดูงงมาก เพราะตัดเสรจดราฟแรกให้หลายคนที่ไม่รู้เรื่องมาก่อนดู ก็ไม่เกทจนเล่าคอนเซ็ปให้ฟัง เราเลยใส่ซุปเปอไปช่วยเล่าเรื่อง ซึ่งคนดูเข้าใจ เราดีใจมาก

เรามีวิธีการตีความเพลงไปถ่ายทอดในเอ็มวี อย่างไร ?
ด้วยคอนเซ็ปต์เพลงที่ชัดขนาดนี้ เราก็ต่อยอดจากตัวคอนเซ็ปต์ไปเป็นเรื่องราว ต่อมาเราก็คุยกันว่าอะไรบ้างที่เราจะหยิบมาเล่าถึง เหมือนกับการเล่าสถานการณ์หนึ่งไปอีกหนึ่งสถานการณ์โดยสามารถให้คนเก็ทสถานการณ์นั้นได้ทันที แต่เราก็ดูด้วยว่าจะเล่ายังไงไม่ให้ดูก้าวร้าวไป

ตัวคุณมีความสนใจทางการเมืองมากขนาดไหน ?
เราเป็นคนสนใจการเมืองและติดตาม แต่ไม่ได้เป็นคนที่อ่านการเมืองลงลึก เราแค่รู้สึกสนใจเพราะเรามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใกล้ตัว เราเจอในชีวิตประจำวันวัน เราเห็นข่าว เราอ่านข่าว เราเจอหลายสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราทำอะไรไม่ได้ เราก็เก็บมาคิด ว่าถ้าเกิดเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อนาคตจะเป็นยังไงต่อ แบบนี้คงไม่ดีแน่ เราก็เลยเอาอะไรตรงนี้ไปใส่ในงาน

กระแสตอบรับเป็นยังไงบ้าง ?
ตอนนี้มีคนเป็นห่วงเยอะคะ 555+ มีคนเป็นห่วงว่าวันนี้จะได้กินข้าวที่ไหน แต่เราดีใจมากที่คนดูชอบ เราดีใจที่คนรู้ว่าเราพยายามใส่อะไรลงไปในนั้น

ถ้าฝ่ายภาครัฐมาดูเอ็มวีตัวนี้เราจะรู้สึกอย่างไร ?
ตอนแรกก็ไม่รู้สึกกลัวนะคะ แต่ตอนนี้มีแต่คนพูดหนูก็เริ่มกลัวแล้วคะ

เป้าหมายต่อไป คืออะไร ?
ในระยะสั้นนี้ ก็จะพยายามเรียนรู้การทำงานตรงนี้ให้ดี เพราะเราอยากเป็นผู้กำกับเต็มตัวอยู่แล้วในอนาคต พี่โตเขาก็สอนเราว่า ทุกคนเป็นผู้กำกับได้ แต่ผู้กำกับที่จะอยู่ได้ยาวๆ ไม่ใช่ว่าจะเป็นได้ทุกคน

อยากให้ ทิ้งท้ายหรือฝากอะไรหน่อย
ฝากเอ็มวี เผด็จเกิร์ล ของแทททู คัลเลอร์ ด้วยนะคะเพราะว่าตั้งใจ กดดัน และเครียดมากๆ ค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook