เปิดหัวใจสีชมพู นางเอกสาว เอสเธอร์

เปิดหัวใจสีชมพู นางเอกสาว เอสเธอร์

เปิดหัวใจสีชมพู นางเอกสาว เอสเธอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา สาวน้อยลูกครึ่งหน้าหวานที่มีผลงานด้านการแสดงให้เราได้ติดตามกันมาแล้วหลายเรื่อง ... in เจาะลึกทุกเรื่องราวของนางเอกคนนี้แบบเอกซ์คลูซีฟมาให้ได้รู้กัน

A Charming Star
นักแสดง...อาชีพที่ใช้สมอง
     ก่อนเข้าวงการเอสมองว่า นักแสดงเป็นอาชีพที่สนุก น่าตื่นเต้นดูท้าทายอยู่ตลอดเวลา แล้วพอได้เข้ามาทำจริงๆ ก็เป็นอย่างที่คิดไว้คือสนุกจริง เราได้เปลี่ยนบทบาทไปเรื่อยๆ เรื่องนี้เล่นเป็นคนแบบนี้ อีกเรื่องได้เล่นเป็นอีกอาชีพ มันท้าทายดีค่ะ ทำให้สมองเราได้ใช้งานอยู่ตลอดเวลา ได้ฝึกฝนตัวเองอยู่เรื่อยๆ ตอนแรกที่เข้ามายังไม่ค่อยรู้เรื่อง แอ็กติ้งไม่เป็นและวางตัวไม่ถูก

     พอทำมาเรื่อยๆ ก็เก็บประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของการทำงาน แต่ยังรวมถึงการได้เจอคนใหม่ๆ ได้ทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างด้วย พอทำงานนานขึ้น เราโตขึ้น ความรับผิดชอบต่างๆ ก็มีมากขึ้นตามไปด้วย ความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้นักแสดงคนหนึ่งอยู่ในอาชีพนี้ได้นานๆ เอสว่านักแสดงทุกคนสวยนะคะ แต่สิ่งที่ทำให้แต่ละคนสวยแตกต่างกันไปคือเรื่องความสามารถ ดังนั้นถึงแม้เราจะเข้ามาทำงานนานพอสมควรแล้ว แต่ก็ต้องหมั่นฝึกฝนและพัฒนาฝีมือตัวเองอยู่ตลอด โดยอาจจะถามรุ่นพี่ที่เก่งๆ หรือดูจากรุ่นพี่ว่าเขาทำงานกันยังไง

     นักแสดงรุ่นพี่ที่เอสชื่นชอบและมองเป็นไอดอลคือพี่แอน (แอน ทองประสม) และพี่นุ่น (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) พี่แอนเป็นนักแสดงที่เล่นได้ถึงทุกบทบาท ส่วนพี่นุ่น เอสเคยเล่นละครด้วยในเรื่อง ‘บ่วง’ พี่นุ่นเล่นได้ดีมาก และเข้าถึงตัวละครตัวนั้นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เอสได้เห็นระบบการทำงานของพี่นุ่นซึ่งตั้งใจมาก ประทับใจค่ะ

 


love is...
ให้เกียรติกัน สำคัญสุด
     ตอนเด็กๆ เอสมองความรักว่าเป็นอะไรที่แสนเพอร์เฟกต์ มีตั้งสเปกด้วย แต่พอโตมา เรามองถึงความเป็นจริงมากขึ้น รู้ว่ามันไม่มีอะไรที่เพอร์เฟกต์ไปเสียทุกอย่าง เวลาคบใครก็ต้องปรับเข้าหากัน ไม่ถือทิฐิ เรามองในมุมของเขามากขึ้น คิดถึงคนอื่นมากขึ้น และเอสถือเรื่องการให้เกียรติเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าไม่มีเรื่องนี้ เรื่องอื่นก็ไม่มีทางตามมาแน่นอน ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย เรื่องความกะล่อน เจ้าชู้ เอสว่าไม่มีใครชอบหรอกค่ะ แต่ที่เอสรู้สึกไม่ชอบที่สุดคือ ผู้ชายขี้โม้ ประเภทโม้ไปเรื่อย ไม่ชอบเลย

 


Pride of Life
งานคือความภาคภูมิใจ
     ความสุขและความภูมิใจในชีวิตของเอสในวันนี้คือเรื่องงานค่ะ พอทำงานเสร็จก็กลับบ้าน ได้เจอกับครอบครัว เจอพ่อแม่และน้องๆ วันหยุดครอบครัวเรามักหาอะไรทำด้วยกัน ไปกินข้าวหรือดูหนังด้วยกันมันเป็นสิ่งที่เรียบง่าย แต่เป็นความสุขสำหรับเอสค่ะ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook