4 กิจกรรมควรทำ เมื่อลูกเป็นเด็กพิเศษ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/wo/0/ud/12/64823/motherkids2.jpg4 กิจกรรมควรทำ เมื่อลูกเป็นเด็กพิเศษ

    4 กิจกรรมควรทำ เมื่อลูกเป็นเด็กพิเศษ

    2017-08-04T14:38:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    เมื่อลูกเป็นเด็กพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเด็กออทิสติก เด็กดาวน์ซินโดรม เด็กสมาธิสั้นหรือเด็กพิการทางสมอง ที่พ่อแม่จะต้องให้การดูแลและเอาใจใส่มากกว่าคนทั่วไป ไม่ต้องกังวลเพราะเด็กพิเศษเหล่านี้เราสามารถบำบัดฟื้นฟูให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ดีขึ้น แม้จะไม่ดีเท่าคนปกติก็ตาม ซึ่งก็มี 4 กิจกรรมบำบัดที่พ่อแม่ควรทำกับลูกบ่อยๆ ดังนี้

    1.บำบัดด้วยเสียงดนตรี

    เสียงดนตรีและท่วงทำนองเพลงจะทำให้ลูกมีการฟื้นฟูสมรรถภาพและกระตุ้นพัฒนาการทางสมองได้ดีขึ้น โดยสามารถทำได้ด้วยการเปิดเพลงให้ลูกฟัง ชวนลูกเต้นไปพร้อมๆ กับเสียงเพลงหรือจะเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิคท่ามกลางเสียงเพลงก็ได้ ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะทำให้ลูกมีสมาธิที่ดีขึ้นแล้ว ก็จะทำให้เขาอารมณ์ดีและลดพฤติกรรมก้าวร้าน รุนแรงได้อีกด้วย

    2.บำบัดด้วยศิลปะ

    การใช้ศิลปะช่วยในการบำบัด จะสามารถพัฒนาด้านอารมณ์ สติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กได้ดี โดยพ่อแม่อาจสอนให้เขาได้จดจ่ออยู่กับการวาดภาพ ระบายสี หรือลองทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ ซึ่งช่วงแรกเขาอาจจะทำได้ไม่ดีนัก แต่เมื่อผ่านไปได้ระยะหนึ่ง คุณจะพบกับความเปลี่ยนแปลง ว่าเขามีพัฒนาการที่ดีขึ้นจนน่าทึ่งเลยทีเดียว

    3.บำบัดด้วยน้ำ

    เป็นการฝึกให้ลูกได้เคลื่อนไหวเมื่ออยู่ในน้ำ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและเป็นการสร้างสมาธิได้ดี โดยวิธีนี้พ่อแม่จะต้องพาลูกเดินเคลื่อนไหวในสระน้ำที่มีน้ำในระดับพอเหมาะไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป และพ่อแม่จะต้องคอยเดินประกบอย่างใกล้ชิดเพื่อระวังความปลอดภัยด้วย

    4.สอนให้เขาทำอะไรด้วยตัวเอง

    ถึงแม้ว่าเด็กพิเศษจะเป็นเด็กที่มีปัญหาในการช่วยเหลือตัวเองและการเข้าสังคม แต่เราก็สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ไม่ยาก ด้วยการสอนให้เขารู้จักทำอะไรด้วยตัวเองอยู่เสมอ เช่น อาบน้ำเอง กินข้าวเอง ใส่เสื้อผ้าเอง หรือทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ แค่หมั่นสอนและย้ำเตือนบ่อยๆ เขาก็จะทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

    การมีลูกเป็นเด็กพิเศษ อาจจะทำให้พ่อแม่รู้สึกหนักใจและกังวลเป็นอย่างมาก แต่อย่าลืมว่าพวกเขาก็สามารถเรียนรู้และพัฒนาการได้เช่นเดียวกับเด็กปกติทั่วไป เพียงแต่จะรับรู้ได้ช้าและมีความเข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่สอนได้ยากกว่า ดังนั้นจึงต้องค่อยๆ ฝึกและเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างน้อยแค่ให้เขาช่วยเหลือตัวเองได้บ้างก็ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเคแล้ว และที่สำคัญไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไร พ่อแม่ก็ควรทำไปพร้อมๆ กับเขาด้วยเสมอ

    ขอขอบคุณ

    ภาพ :istock