5 ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีรักษามะเร็งเต้านม

คงเป็นที่รู้กันดีว่า หากเป็นโรคมะเร็งเต้านมแล้วไม่ดูแลตัวเองนั้น จะทำให้เนื้อร้ายสามารถลุกลามได้ไวมาก จนถึงขั้นต้องตัดเต้านมและถึงแก่ชีวิตได้เลย ส่วนการรักษาโรคมะเร็งเต้านม ส่วนมากแพทย์มักจะใช้วิธีรักษาด้วยการฉายรังสีเพื่อหยุดยั้งเซลล์มะเร็งที่กำลังแพร่กระจาย แม้จะเป็นวิธีที่ดูง่าย แต่ความจริงแล้วมันมีผลข้างเคียงมากกว่าที่คิด มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1.ทานอาหารไม่ได้

เมื่อผู้ป่วยได้รับการฉายรังสีต่อมน้ำเหลืองช่วงบริเวณหน้าอก (ซึ่งหลาย ๆ คนก็มักจะต้องฉายรังสีในบริเวณนี้) รังสีจะเข้าไปถูกหลอดอาหารบางส่วน จึงมีผลให้กลืนอาหารได้ยากลำบาก จึงส่งผลให้ไม่สามารถทานอาหารได้ เพราะฉะนั้น จึงควรทานอาหารอ่อน ๆ หรืออาหารที่สามารถย่อยได้ง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม หรือจะขออาหารเจลพระราชทานก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการหนักมาก แพทย์ก็มักจะไม่ฉายรังสีบริเวณนี้ แต่ให้ยาเพื่อรักษาอาการแทน

2.คลื่นไส้ อาเจียน

เพราะรังสีที่ฉายอาจจะมีผลต่อระบบย่อยและหลอดอาหาร จนทำให้รู้สึกเบื่ออาหารและอยากอาเจียนตลอดเวลา แต่ส่วนมากมักมีอาการที่ไม่รุนแรง เป็นแค่ช่วงระยะแรก ๆ เท่านั้น แต่ถ้ามีอาการรุนแรงขึ้นต้องแจ้งแพทย์ที่ทำการรักษาทันที เพราะอาจเป็นภาวะที่ทำให้เกิดอันตรายได้

 

3.เม็ดเลือดขาวต่ำ

เป็นสิ่งที่ต้องเจออยู่แล้วสำหรับการฉายรังสีหรือการทำคีโม ยิ่งทำจำนวนครั้งมาก ๆ ก็อาจทำให้เม็ดเลือดขาวเหลือน้อย ซึ่งจะส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยง่าย ภูมิต้านทานต่ำ และมีโอกาสช็อคจนส่งผลให้มะเร็งสามารถลุกลาม หรืออาจมีโรคฉวยโอกาสแทรกซ้อนขึ้นมาได้อีก เพราะฉะนั้นหากมีอาการรุนแรงจริง ๆ แพทย์มักจะให้ยาเพื่อบรรเทาอาการ หรือให้พักจนกว่าเม็ดเลือดขาวจะมีค่าเป็นปกติถึงจะทำการฉายรังสีใหม่อีกครั้ง

4.การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง

เพราะการฉายรังสีอาจจะสร้างแผลบางอย่างให้กับผิวหนังได้ เช่น คล้ำ ดำ แห้ง ตกสะเก็ด หรืออักเสบ จึงควรดูแลรักษาผิวหนังส่วนนี้อย่างดี อย่าให้มีการกดทับหรือเปียกชื้นจากเหงื่อ รวมถึงต้องระวังอย่าให้ผิวถูกแสงแดดมากเกินไปอีกด้วย

5.อาการระคายคอ

หรืออาการไอ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อการฉายรังสีไปถูกหลอดลมและปอดบางส่วน เพราะฉะนั้นแพทย์จึงมักจะให้ยาแก้ไอในส่วนนี้ไปด้วย และถ้ามีอาการรุนแรงขึ้นก็ควรแจ้งแพทย์เพื่อให้รู้อาการที่เกิดขึ้น

และนี่คือผลข้างเคียงจากการฉายรังสีรักษามะเร็งเต้านมที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นควรเตรียมพร้อมรับมือกับอาการข้างเคียงดังกล่าวให้ดีและหากมีอาการผิดปกติที่รุนแรงก็ควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยด่วน อย่าได้รอช้าเลยเชียว