เมื่อทารกในครรภ์เติบโตช้า คุณแม่ควรรับมือยังไงดี?

เมื่อทารกในครรภ์เติบโตช้า คุณแม่ควรรับมือยังไงดี?

เมื่อทารกในครรภ์เติบโตช้า คุณแม่ควรรับมือยังไงดี?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โดยปกติแล้วทารกในครรภ์จะต้องมีการเจริญเติบโตไปตามวัย ตามเกณฑ์ที่ได้กำหนดเอาไว้ โดยสามารถดูการเจริญเติบโตของทารกได้จากน้ำหนักเมื่อเทียบกับอายุครรภ์ การวัดยอดมดลูกและการอัลตร้าซาวด์เพื่อตรวจเช็คความผิดปกติของทารก ซึ่งหากตรวจพบว่าทารกในครรภ์โตช้ากว่าปกติ คุณแม่จะต้องรีบแก้ปัญหาโดยด่วนดังนี้

1.ปรับพฤติกรรมเพื่อสุขภาพ

พฤติกรรมบางอย่างของคุณแม่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ทารกโตช้ากว่าปกติ ดังนั้นจึงต้องแก้ปัญหาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองใหม่ เช่นนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเพิ่มเวลานอนกลางวันไปอีกวันละประมาณ 1 ชั่วโมง การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และที่สำคัญจะต้องนอนให้ถูกท่าด้วย นั่นคือการนอนตะแคงซ้ายนั่นเอง

2.นับการดิ้นของทารกในครรภ์อยู่เสมอ

การนับการดิ้นของทารกในครรภ์จะทำให้ทราบได้ว่าทารกมีความปกติหรือกำลังเข้าข่ายอันตรายหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าทารกดิ้นน้อยกว่าปกติก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที โดยสำหรับการดิ้นของทารกให้นับเป็นประจำหลังอาหารวันละ 3 เวลาและจดบันทึกไว้เสมอ ซึ่งในปัจจุบันก็จะมีการให้จดบันทึกการดิ้นของลูกน้อยลงในสมุดสีชมพูพร้อมมีคำแนะนำบอกอยู่แล้ว

3.งดสิ่งเสพติดทุกชนิด

สิ่งเสพติดในที่นี้ก็จะหมายรวมถึงบุหรี่และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้จะไปทำให้การพัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ช้าลง ทั้งยังเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ทารกพิการหรือเสียชีวิตในครรภ์ได้อีกด้วย และนอกจากหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้โดยตรงแล้ว ก็ควรเลี่ยงควันบุหรี่มือสองเช่นกัน

4.สร้างสุขภาพจิตที่ดี

เพราะสุขภาพจิตก็มีส่วนที่จะทำให้ทารกในครรภ์โตช้าได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงควรหมั่นสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้กับตัวเองอยู่เสมอ ด้วยการลดความเครียด และควรหาเวลาไปเที่ยวไปพักผ่อนหย่อนใจบ้าง โดยเมื่อสุขภาพจิตดีขึ้น ก็จะทำให้การเติบโตของลูกน้อยเป็นไปอย่างสมวัยมากขึ้นเช่นกัน

5.ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดนั่นเอง และจะต้องไปพบแพทย์ให้ตรงตามนัดอยู่เสมอด้วย เพื่อตรวจเช็คพัฒนาการลูกน้อยอยู่ตลอดเวลา และเป็นการเฝ้าระวังความเสี่ยงอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ด้วยนั่นเอง

เมื่อตรวจพบว่าทารกในครรภ์โตช้า คุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจเด็ดขาด เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณความผิดปกติของทารกในครรภ์นั่นเอง โดยคุณแม่ควรทำตามคำแนะนำข้างต้นอย่างเคร่งครัด พร้อมกับไปพบแพทย์อยู่เสมอ ก็จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจตามมาได้ นอกจากนี้สำหรับคุณแม่ที่ยังทำงานอยู่ก็ควรหลีกเลี่ยงการทำงานหนักเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook