เบิร์ตส์ บีส์ มอบคุณค่าอันบริสุทธ์จากธรรมชาติ..

"คุณค่าจากธรรมชาติ" เป็นสิ่งที่ผู้คนยุคนี้แสวงหา เห็นได้จากความนิยมในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ผลิตภัณฑ์สำหรับลูกน้อย ที่คุณแม่ยุคนี้ก็ให้ความสนใจหันมาเลือกใช้กันมากขึ้น จนบางครั้งทำเอาหลายคนตัดสินใจยากว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเหมาะสมและปลอดภัยกับสภาพผิวของลูกน้อยที่คุณรักจริงหรือไม่

เบิร์ตส์ บีส์ ผลิตภัณฑ์ที่มอบคุณค่าจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์มากว่า 25 ปี แนะนำ ผลิตภัณฑ์เบิร์ตส์ บีส์ เบบี้ บี แอนด์ มาม่า บี ให้คุณแม่มั่นใจว่าปลอดภัยต่อลูกน้อย 100 เปอร์เซ็นต์ ได้เชิญกูรูผู้อยู่ในวงการความงามอย่าง เรืออากาศเอกแพทย์หญิงภาวดี ลีลเศรษฐพร จากโรงพยาบาลเวชธานี มาช่วยไขความลับคุณค่าจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับเด็กและทารก และยังได้คุณแม่ยังสาวอย่าง โมนา-วิภาวี คอมันตร์, หนึ่ง-ผาณิต ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ และ กี๋-วิสทา กุญชร ณ อยุธยา มาร่วมเผยเคล็ดลับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติสำหรับลูกน้อย

 

คุณหมอโก้-ภาวดี กล่าวว่า เวลาคุณแม่เลือกผลิตภัณฑ์ให้ตัวเองก็ว่าสำคัญแล้ว เลือกให้ลูกใช้สำคัญยิ่งกว่า เพราะผิวของลูกน้อยบอบบางและแพ้ง่าย เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับเด็ก คุณแม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ และควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี ที่อาจจะเกิดการระคายเคืองต่อผิวลูกน้อย

อาทิ Paraben สารกันบูดที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งหากใครแพ้ก็จะเกิดการระคายเคือง เกิดผดผื่น หรือสาร SLS (Sodium Lauryl Sulfate) สารที่ทำให้เกิดฟอง ช่วยให้สิ่งสกปรกและคราบไขมันหลุดออกไปได้ ซึ่งมักผสมในสบู่เหลว หรือในยาสีฟันสำหรับเด็ก

ซึ่งสารนี้ได้รับการยืนยันว่าเป็นสารก่อมะเร็ง แต่ในบางผลิตภัณฑ์ยังมีการนำมาใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางอยู่ โดยเฉพาะสบู่เหลว ซึ่งอาจทำให้แสบตาและระคายเคืองผิว ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตส่วนผสมผลิตภัณฑ์ของลูกน้อยให้ดี ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อมาใช้ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารสังเคราะห์

"การสังเกตส่วนผสมเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด คนไทยหลายคนมักนิยมเลือกซื้อสินค้าตามคำโฆษณาชวนเชื่อ เคล็ดลับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของหมอเอง คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยืนยันว่าอ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ทั้งยังควรจะมาจากธรรมชาติ100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็จะสังเกตได้ง่ายๆ จาก Natural Bar บนผลิตภัณฑ์ที่บอกชัดเจนถึงปริมาณความเป็นธรรมชาติของแต่ละผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะได้ว่าผลิตภัณฑ์ไหนมาจากธรรมชาติจริงๆ และที่สำคัญควรจะได้รับการรับรองจากองค์กรชั้นนำที่เชื่อถือได้

อาทิ Natural Products Association ของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ใช้ใบไม้สีเขียวเป็นสัญญลักษณ์ การที่แต่ละผลิตภัณฑ์จะบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆมาจากธรรมชาติจริงๆ ก็ต้องผ่านตามกฎเหล็ก 4 ข้อคือ

Natural : ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจะต้องมาจากส่วนผสมจากธรรมชาติเท่านั้นและต้องผลิตด้วยกระบวนการที่เหมาะสมเพื่อคงสภาพความบริสุทธิ์ของส่วนผสมนั้น ๆ

Safety : ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติไม่ควรมีส่วนผสมใด ๆ ที่มีผลการวิจัยระบุว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

Responsibility : ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ไม่ควรมีการทดลองผลิตภัณฑ์ใดๆ กับสัตว์โดยเด็ดขาด

Sustainability : ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ควรใช้ส่วนผสมที่สามารถย่อยสลายได้ในสิ่งแวดล้อมและใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ซึ่งก่อนจะตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ใดๆ ให้แก่ลูกน้อย "ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทีมีความอ่อนโยนไม่ระคายเคืองต่อผิวที่บอบบางหรือแพ้ง่าย อาจจะเป็นสารในกลุ่มที่มีโอกาสแพ้ได้น้อยเช่นที่สกัดจากธรรมชาติและที่ได้มาตรฐานการผลิตด้วย GMP (Good Manufacturing Product) เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพเพื่อความปลอดภัยของคนที่คุณรัก" คุณหมอแนะนำ

 

 

ด้านคุณแม่ลูกแฝด โมนา-วิภาวี คอมันตร์ ผู้ใส่ใจทุกผลิตภัณฑ์ของ น้องธิ-น้องดา ฝาแฝดชาย-หญิง วัย 1 ขวบ 3 เดือน เล่าว่า "ตอนนี้มีความสุขมากค่ะ กับการได้เลี้ยงลูกทั้งสองคน แม้ลูกๆ จะมีพี่เลี้ยงคอยดูแล แต่โมนาไม่ให้เขาคลาดสายตา และที่สำคัญเราเลือกผลิตภัณฑ์ทุกอย่างให้ลูกเองอย่างดีที่สุด เพราะลูกทั้งสองคน แม้จะเป็นฝาแฝด แต่กลับมีสภาพผิวที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด น้องดาลูกสาวจะมีผิวค่อนข้างแพ้ง่าย

แถมเวลาโดนยุงหรือตัวอะไรกัด จะมีรอยบวมขึ้นมาชัดเจน โมนาลองใช้ เบบี้ บี ออล เบทเทอร์ บาล์ม (Baby Bee All Better Balm) ของเบิร์ตส์ บีส์ ทาให้ลูก ดีมากค่ะ เห็นผลทันใจ ยิ่งตอนนี้ทั้งคู่กำลังอยู่ในวัยซน มักชนนั่นชนนี่ล้มได้รอยบวมแดงเป็นประจำ บาล์มตัวนี้ก็เป็นผู้ช่วยอันดับหนึ่ง แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ลูกชอบด้วย"

คุณแม่โมนาฝากเคล็ดลับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติว่า "เดี๋ยวนี้ผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติมีค่อนข้างให้เลือกเยอะ สิ่งสำคัญคือต้องดูฉลากที่ระบุว่ามาจากธรรมชาติกี่เปอร์เซนต์ เราก็ต้องเลือกที่มีเปอร์เซ็นต์มากที่สุด ยิ่งถ้าเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ได้ก็จะยิ่งดีมาก สำหรับผลิตภัณฑ์ของลูกๆ ทั้งสองนั้น บางตัวก็ใช้ร่วมกันได้ แต่สำหรับน้องดา ต้องใส่ใจเรื่องการแพ้เป็นพิเศษ ต้องเชื่อมั่นว่าอ่อนโยนต่อผิวอันบอบบางของลูกจริงๆ นอกจากนี้กลิ่นก็สำคัญ ต้องเป็นกลิ่นธรรมชาติและลูกต้องชอบด้วย"

"สำหรับน้องดา นอกจากจะผิวแพ้ง่ายแล้ว น้องยังมีลักษณะเป็น Hyper sense คือเป็นลักษณะเด็กที่มีแนวโน้มว่าเลี้ยงค่อนข้างยาก ตอนเล็กๆ น้องจะมู้ดดี้มาก เพราะน้องเกิดก่อนกำหนด ข้อต่อยังไม่สมบูรณ์ ทำให้เขาขยับเขยื้อนไม่ได้ดั่งใจสั่ง ยิ่งทำให้อารมณ์เสีย เวลาเราให้ทำอะไรก็จะปฏิเสธก่อนเป็นอันดับแรก ตอนนี้โตแล้วอาการเหล่านี้ก็หายไป ตอนนี้น้องอารมณ์ดีมากๆ แต่ก็ยังคงปฏิเสธมาเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้ต้องเลือกใช้ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ดีและเป็นสิ่งที่น้องชอบด้วย อย่างตัว เบบี้ บี ออล เบทเทอร์ บาล์ม จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ น้องก็ยอมให้เราทารอยฟกช้ำให้ แถมคนพี่ยังอยากแจมมาร่วมทากับน้องด้วย "

เผยเคล็ดลับการดูแลลูกน้อยแล้ว ส่วนตัวคุณแม่เองก็มีเคล็ดลับคงความสวยในแบบธรรมชาติด้วย "ส่วนตัวจะเน้นเรื่องการนอนค่ะ ต้องหลับให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพราะหากนอนหลับเต็มอิ่มแล้ว ผิวพรรณจะเปล่งปลั่งสดใส แต่หากนอนน้อย ผลิตภัณฑ์ดีแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ นอกจากนั้น โมนาจะใช้วิธีจิบน้ำแทนการดื่มน้ำทีเดียวมากๆ เพราะร่างกายจะดูดซึมน้ำไปใช้ได้ดีกว่าดื่มทีเดียวหมดแก้วแล้วร่างกายขับออกมาเลย นอกจากนั้นก็เน้นการออกกำลังกาย และไม่เครียดค่ะ เชื่อว่าวิธีธรรมชาติเหล่านี้ ช่วยให้สวยทั้งภายในและภายนอกแน่นอนค่ะ"

 

ไม่เฉพาะคุณแม่โมนาเท่านั้น ที่ต้องห่วงใยการเลือกผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจและตรงผิวของลูกๆ คุณแม่เต็มเวลาอย่าง หนึ่ง-ผาณิต ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ ที่ต้องยุ่งกับการจัดสรรเวลาให้ลูกๆ แฝดสาม อย่าง น้องพราว น้องพิบ และ น้องพร้อม วัย 3 ขวบ 6 เดือน และอีกหนึ่งหนุ่มน้อย น้องพุฒ วัย 1 ขวบ 3 เดือน ก็ต้องเลือกสรรผลิตภัณฑ์ให้ถูกกับผิวของลูกน้อยทั้ง 4 คนด้วย

"การบริหารจัดการเวลาเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับคุณแม่ที่มีลูกหลายคนค่ะ หนึ่งจะกำหนดเวลาไว้ตั้งแต่ลูกเล็กๆ ว่า เวลานี้อาบน้ำ เวลานี้กินนม เวลานี้ทานข้าว ซึ่งพอลูกโต เขาก็จะรู้ว่าถึงเวลาต้องทำอะไร จึงช่วยทำให้งานเราง่ายยิ่งขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ง่ายสำหรับคุณแม่ลูกเยอะอย่างเรา คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกๆ

เพราะทั้งสี่คนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน อย่างน้องพราว ลูกสาวคนโตจะมีผิวแห้งมาก ก็ต้องเน้นการทามอยซ์เจอร์เยอะหน่อย ก็ต้อง เบบี้ บี สกิน ครีม (Baby Bee Skin Crème) เลยค่ะ ผิวน้องพราวชุ่มชื่นตลอดวัน น้องพิบจะผิวดีกว่าพี่น้องคนอื่นๆ แต่น้องพร้อมลูกชายคนที่สามจะมีผิวที่แพ้ง่าย คันง่าย น้องพุฒิก็ได้ตำรับน้องพร้อมมา ค่อนข้างแพ้ง่ายเช่นกัน"

คุณแม่เล่าถึงอาการแพ้ง่ายของสองหนุ่มน้อยลูกชายคนเล็ก ว่า เกิดอาการแพ้จนต้องถึงมือหมอ ต้องทายา "คุณหมอแนะนำให้เราอาบน้ำเปล่าให้ลูก แต่ตอนนั้นน้องพร้อมก็โตแล้วและต้องออกจากบ้าน หนึ่งจึงให้น้องล้างสบู่แค่เท้ากับมือ ที่สำคัญสบู่ที่เราเลือกก็ต้องบริสุทธิ์พอ

หนึ่งใช้ เบบี้ บี บัทเทอร์ มิลค์ โซพ (Baby Bee Butter Milk Soap) ที่ปราศจากส่วนผสมของสารซักล้าง (SLS - Sodium Acid Sulfate) หลังล้างเสร็จผิวลูกก็ไม่แห้งตึง นอกจากผลิตภัณฑ์ที่ลูกใช้แล้ว เรายังต้องคอยดูแลเสื้อผ้าและอาหาร เสื้อผ้าที่ดีต้องเป็นคอตตอน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะระบายอากาศได้ดี ส่วนอาหารนั้น เด็กที่มีอาการแพ้ง่ายไม่ควรทานอาหารทะเลที่มีเปลือกแข็งและไข่ขาวก่อนวัย 3 ขวบ"

นอกจากนั้นยังได้แนะนำวิธีเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่แพ้ง่ายว่า "หนี่งจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามารถดูได้จากบรรจุภัณฑ์ แล้วก็ต้องดมกลิ่นว่าฉุนไปไหม ที่สำคัญต้องนำมาทดลองใช้ เพราะเด็กแต่ละคนก็มีผิวที่แตกต่างกัน บางตัวอาจจะดีกับลูกคนนี้ แต่ทำให้ลูกอีกคนแพ้ได้ พอรู้ว่า เบิร์ตส์ บีส์ มีผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กมาจำหน่ายที่เมืองไทยดีใจมากค่ะ

เพราะเมื่อก่อนจะซื้อจากต่างประเทศมาใช้ อย่างตัว เบบี้ บี ไดอาเพอร์ ออยท์เมนท์ (Baby Bee Diaper Ointment) จะชอบมาก เพราะใช้ได้ผลกับลูกๆ ทุกคน ตอนยังใช้ผ้าอ้อม และอีกตัวที่ชอบคือ บีส์แว็กซ์ ลิปบาล์ม (Beeswax Lip Balm) ซึ่งเรามั่นใจว่ามีส่วนผสมจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงอนุญาตให้น้องพราวใช้ เพราะเวลาน้องเห็นคุณแม่ทาปากก็อยากทาบ้าง เรียกว่านอกจากจะปลอดภัยแล้วยังช่วยสร้างสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกได้อีกทางหนึ่ง"

 

ปิดท้ายที่ คุณแม่กี๋-วิสทา ที่แม้จะมีลูกสาว น้องเอรา วัย 1 ขวบ เพียงคนเดียว แต่ก็ต้องใส่ใจกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ คุณพ่อช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา ด้วย
"ส่วนตัวแล้วไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติตามเทรนด์ค่ะ แต่ใช้มาโดยตลอดอยู่แล้ว เพราะครอบครัวเราแพ้ง่ายทั้งบ้านเลยค่ะ ตัวกี๋เองแพ้อากาศ ส่วนพี่ช้างน้อยแพ้อาหารและผิวแพ้ง่าย เช่นเดียวกับน้องเอรา ซึ่งมีผิวแพ้ง่ายมาก แถมผิวยังแห้งจนบางทีถึงกับมีผื่นขึ้น กี๋จึงต้องดูแลและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและทำจากธรรมชาติ บริสุทธิ์จริงๆ มาใช้"
คุณแม่กี๋แนะนำถึงการดูแลเด็กที่มีผิวแพ้ง่ายว่า

นอกจากจะเน้นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ น่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับจากองค์กรต่างๆ แล้ว คุณแม่ยังต้องรู้จักสังเกตความผิดปกติของลูกน้อยด้วย เพราะเด็กเล็กๆ ไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองกำลังแพ้ในสิ่งที่คุณแม่นำมาให้ใช้ หากสังเกตเห็นแล้วว่าลูกเกิดการแพ้ ก็ต้องเปลี่ยนทุกอย่างที่ลูกใช้ โดยเริ่มทีละอย่าง เริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับลูกน้อยโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นโลชั่น แป้ง รวมไปถึงน้ำยาซักผ้า เมื่อรู้ว่าลูกแพ้ผลิตภัณฑ์ตัวไหนแล้ว ก็ต้องงดใช้ตัวนั้นให้เร็วที่สุด

"เคล็ดลับการดูแลผิวที่แพ้ง่ายของน้องเอรา คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับฤดู อย่างเช่น ฤดูหนาว กี๋ก็จะผสม เบบี้ บี นูริชชิ่ง เบบี้ ออยล์ (Baby Bee Nourishing Baby Oil) ลงไปในอ่างอาบน้ำด้วย แล้วใช้ครีมทาผิว เบบี้ บี บัทเทอร์มิลค์ โลชั่น (Baby Bee Buttermilk Lotion) ให้ผิวน้องได้ชุ่มชื้น ส่วนหน้าร้อน ก็ต้องงดการใช้ออยล์เพราะจะทำให้ผิวเหนอะหนะ ก็ดีใจมากที่มีผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ อย่าง เบิร์ตส์ บีส์ เบบี้ บี เพราะได้ลองให้น้องเอราใช้แล้ว ไม่เกิดอาการแพ้ โดยเฉพาะ เบบี้ บี บับเบิ้ล บาธ (Baby Bee Bubble Bath)

ซึ่งนอกจากลูกสาวจะใช้แล้ว คุณพ่อก็ยังแอบใช้ของลูก จึงรู้ว่าปลอดภัยต่อผิวแพ้ง่ายของทั้งพ่อและลูกค่ะ นอกจากนั้น กี๋ชอบ Mama Bee Leg & Foot Crème มากค่ะ เวลาที่ต้องเดินเยอะหรือว่าอุ้มน้องเอราไปไหนต่อไหนทั้งวัน อาจเกิดอาการเมื้อยล้าที่ขาบ้าง ครีมตัวนี้นวดขาและเท้าแล้วสบายมากค่ะ รู้สึกว่าเลือดบริเวณเท้าหมุนเวียนได้ดีขึ้น ปลื้มมากค่ะ"

คุณแม่กี๋กล่าวส่งท้ายว่า "การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและเหมาะสมกับผิวของลูกน้อย นอกจากจะช่วยไม่ให้เกิดการแพ้แล้ว ยังมีส่วนในการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกน้อยอีกด้วย เพราะเมื่อลูกรู้สึกสบายตัว ไม่มีปัญหาการแพ้กวนใจ เขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา"

ร่วมสัมผัสและส่งมอบความห่วงใยให้ลูกน้อยด้วยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ "เบิร์ตส์ บีส์ เบบี้ บี แอนด์ มาม่า บี" ได้แล้ววันนี้ ที่ แผนกแม่และเด็ก สยามพารากอน และ ดิ เอ็มโพเรี่ยม

พบกับผลิตภัณฑ์ เบิร์ตส์ บีส์ ทุกชนิดได้ที่ สยามพารากอน ชั้น G, บิวตี้ฮอลล์ ชั้น M, ดิเอ็มโพเรียม แผนกบิวตี้ ฮอลล์ ชั้น G, เดอะมอลล์ ท่าพระ และ เดอะ มอลล์ บางแค แผนกบิวตี้ ฮอลล์ ชั้น G หรือแฟนๆ เบิร์ตส์ บีส์ จะแวะมาอัพเดตข้อมูลข่าวสารและช้อปออนไลน์ได้ที่ www.facebook.com/BurtsBeesTH และ www.burtsbees.co.th