คุณหรือเปล่า ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการขาดวิตามินซี ??

     วิตามินซี อีกหนึ่งแร่ธาตุที่เป็นกลไกสำคัญของการมีสุขภาพดี และเราต้องได้รับวิตามินซีทุกวันเนื่องจากเป็นวิตามินที่ละลายน้ำและไม่สามารถสะสมในร่างกายได้นาน โดยจะถูกขับออกทางปัสสาวะและเหงื่อ ปกติจึงแนะนำให้ทานวิตามินซีต่อวันอยู่ที่ 60 มก. และสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรที่ประมาณ 70-96 มก.

มาเช็คดูว่าคุณมีอาการแบบนี้บ้างหรือเปล่า ?
     - รู้สึกอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อยากนอนอยู่ตลอดเวลา ทำกิจกรรมอะไรก็ไม่ค่อยสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
     - เจ็บกล้ามเนื้อ และมีอาการอ่อนแรง ทั้งที่ไม่ค่อยได้ยกของหนักสักเท่าไร
     - มีเลือดออกตามไรฟัน หรือปวดบริเวณเหงือกบ่อยๆ
     - ผิวแห้งกร้าน คล้ำเสีย ถึงแม้ว่าจะบำรุงผิวอยู่เป็นประจำก็ตาม
     - ป่วยง่าย เป็นหวัดอยู่บ่อยๆ และมักเป็นๆ หายๆ

     ถ้าตอบว่าใช่ในหลายๆ ข้อ ต้องไปหาวิตามินซีมาทานเสริมให้ไว เพราะเป็นอาการบ่งบอกว่าคุณกำลังได้รับวิตามินชนิดนี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้วล่ะค่ะ

 

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามินซี เช่น
     - ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง เพราะมีมลพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จำนวนมาก ซึ่งเป็นตัวการทำลายวิตามินซี
     - ผู้ที่ทานยาแอสไพริน เพราะเป็นตัวยาที่ทำให้วิตามินซีถูกขับออกจากร่างกายเร็วขึ้นถึงสามเท่า
     - ผู้ที่สูบบุหรี่ เนื่องจาก ร่างกายจะสูญเสียวิตามินซี 25 – 100 มก. ต่อการสูบบุหรี่หนึ่งมวน แต่อย่างไรก็ตามบุหรี่นั้นก่อให้เกิดโทษอย่างมากมายต่อร่างกาย ทางที่ดีเลิกบุหรี่ไปเลยจะดีที่สุด
     - ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ กลุ่มนี้ไม่ขอเรียกว่าขาด แต่ต้องเสริมวิตามินซีให้มากกว่าปกติเพื่อช่วยในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อในการสร้างร่างกายของลูกน้อย และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายของคุณแม่ และวิตามินซียังช่วยให้คุณแม่สดชื่นอีกด้วย

 

     การทานวิตามินซีให้ได้ประโยชน์อย่างสูงสุด ควรทานหลังมื้ออาหารหรือทานพร้อมอาหาร เพราะวิตามินซีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารและวิตามินซีไปใช้งานได้ง่ายขึ้น และตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้การทานวิตามินซีเป็นเรื่องง่ายและสะดวกก็คือ C-vitt เครื่องดื่มผสมวิตามินซี 200% ดื่มได้ทั้ง 7 วัน ที่มีให้เลือกสดชื่นกันถึง 3 รส คือ ออเร้นจ์ ทับทิม และเลมอน แล้วยังหาซื้อได้ง่ายๆ ที่ร้านสะดวกซื้อ เช่น 7- Eleven, แฟมิลี่มาร์ทใกล้บ้าน และถ้าสนใจเรื่องราวของวิตามินซีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถติดตามได้ที่ www.facebook.com/Cvitt.vitaminC

 

อ้างอิงข้อมูล :
www.honestdocs.co
www.medthai.com

[Advertorial]