ตอกย้ำความเป็นหนึ่งของผ้าไทย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม
จัดแฟชั่นโชว์อวดโฉมผลงานการออกแบบชุดไทยร่วมสมัย จากดีไซเนอร์ 4 แบรนด์ดัง
เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 84 พรรษา

ประยุกต์ศาสตร์ศิลป์ทั้งเก่าใหม่ จนกลายเป็นคอลเลกชั่นเสื้อผ้างดงามสมความเป็นไทย พร้อมนำมาแสดงบนเวทีแฟชั่นใหญ่ใน “โครงการผ้าไทยร่วมสมัยเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 84 พรรษา” โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม จัดขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคมที่กำลังจะถึงนี้

กับผลงานจากเหล่าดีไซเนอร์จาก 4 แบรนด์ดัง ได้แก่ ‘พลัฏฐ์ พลาฎิ’ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แบรนด์ ‘เรียลลิสติก ซิทูเอชั่น’, ศิริชัย ทหรานนท์ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แบรนด์ ‘เธียเตอร์’, ‘วิชระวิชญ์ อัครสันติสุข’ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แบรนด์ ‘วิชระวิชญ์’ และ ‘ชัย เจียมกิตติกุล’ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แบรนด์ ‘ชัย โกลด์เลเบล’ ที่พร้อมใจกันนำเสนอผลงานการออกแบบเครื่องแต่งกายที่ตัดเย็บด้วยผ้าไทยจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อย่างสุดฝีมือ บริเวณโซนอีเดนศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ค่ำคืนก่อน

โดยงานครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ “มุก” เพลินจันทร์ - “แจ็ค”ปริญญา รุ่นประพันธ์, พัชทรี ภักดีบุตร, “แพร” อมตา จิตตะเสนีย์, “นิว” อธิวัฒน์ ตู้ทองคำ, “บอย”วรรณศิริ คงมั่น, “อาร์ต” อารยา อินทรา, “มาร์ค” มรุวุตม์ บูรณศิลปิน, ธนนนท์ ธนากรกานต์, สิริวงษ์ สุขเกษมสิน และอีกมากมาย

‘วีระ โรจน์พจนรัตน์’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงจุดประสงค์หลักของการจัดทำโครงการดังกล่าวว่า “เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จึงได้เทิดพระเกียรติพระองค์ ด้วยการจัดทำ ‘โครงการผ้าไทยร่วมสมัยเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 84 พรรษา’ ในฐานะที่พระองค์เป็นผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณด้านการส่งเสริมผ้าไทยเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชาวไทยทั้งยังรักษาภูมิปัญญาการทอผ้าไม่ให้สูญหายไปด้วยการจัดตั้งมูลนิธิส่งเสริมงานด้านการทอผ้า

เพื่ออนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมการทอผ้าให้เป็นอาชีพของคนไทยสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยได้ร่วมมือกับเหล่าดีไซเนอร์และมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพนำผ้าไทยมาออกแบบเป็นเสื้อผ้าที่เหมาะกับยุคสมัยและคนรุ่นใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับแผนผลักดันผ้าไทยร่วมสมัยสู่สากล สามารถสวมใส่ได้ปกติในกลมกลืนกับชีวิตประจำวันดังในอดีต ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว

โดยคอนเซ็ปต์การออกแบบของแต่ละแบรนด์ได้ดึงเอาเอกลักษณ์ของผ้าไทยมาผสานเข้ากับจุดเด่นของแบรนด์ตนเองได้อย่างลงตัว เริ่มจาก ‘พลัฏฐ์ พลาฎิ’ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แบรนด์ ‘เรียลลิสติก ซิทูเอชั่น’ “ที่แรงบันดาลใจหลักในการออกแบบจะได้มาจากชุดฉลองพระองค์ โดยการดึงจุดเด่นต่างๆ มาใช้ ปรับให้เข้ากับคอนเซ็ปต์แบรนด์ด้วยซิลลูเอทที่ออกมาจึงค่อนข้างจะเป็นแนวกราฟฟิกผสานกับความคลาสสิค

“ทุกครั้งที่ค้นคว้าสำหรับงานออกแบบโดยใช้ผ้าไทย จะเริ่มค้นคว้าที่ฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถแล้วเลือกหยิบมาใช้ ครั้งนี้เลือกหยิบเป็นส่วนๆ ของเสื้อ เช่น ช่วงไหล่ หรือช่วงปก มาผสมกับโครงเสื้อในแบบของ Realistic Situation และแพทเทิร์นทั้งหมดจะเป็นกราฟิก สี่เหลี่ยมผืนผ้า สี่เหลี่ยมจัตุรัส สีเหลี่ยมคางหมู หกเหลี่ยมแปดเหลี่ยม มีขอบมีมุม ใช้ผ้า 7 ลาย 7 ชุด ซึ่งผ้าที่ได้มาเป็นผ้ามัดหมี่คละลาย เป็นสีเอิร์ธโทนทั้งหมด เส้นยืนจะเป็นสีเงิน

ส่วนเส้นพุ่งจะเป็นสีน้ำตาล ตัวมัดหมี่เป็นสีชมพู สีเม็ดมะปรางชมพูออกม่วงอมขียว ไม่มีการตัดต่อผ้า เพราะอยากให้เห็นความคมชัดของมัดหมี่ จริงๆ ร่วมกับการใช้วัสดุในการปักเป็นหิน กระจกสร้างลายขึ้นมาใหม่ไม่ล้อกับลายเดิม ให้มีความเก่าผสมกับความใหม่ เกิดการสะท้อนเมื่อโดยแสงทั้งบนเวทีและแสงธรรมชาติ แต่ไม่เวอร์จนเกินไป” พลัฏฐ์ เล่าถึงคอนเซ็ปต์การออกแบบ

ถัดมาที่ ‘ศิริชัย ทหรานนท์’ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แบรนด์ ‘เธียเตอร์’ เผยแนวคิดหลักของคอลเลกชั่นนี้ว่าต้องการเสื้อผ้าที่เป็นทางการแต่มีความสนุกเพราะจะทำให้ผ้าไหมดูโก้ขึ้น ในคอนเซ็ปต์หนุ่มนาข้าว ด้วยการผสมผสานระหว่างผ้าขาวม้ากับมัดหมี่ มาทำเป็นงานปักบนตัวชุดเพื่อสร้างเท็กซ์เจอร์ให้เสื้อผ้าดูน่าสนใจขึ้น “ซิลลูเอทโดยรวมท่อนล่างจะค่อนข้างใหญ่กว่าท่อนบน เพราะจะทำให้ชุดที่เป็นทางการดูใส่ง่าย เปลี่ยนมาใส่แบบลำลองได้

ส่วนในเรื่องของสีก็เลือกเป็นสีม่วงเป็นหลัก ตั้งแต่สีม่วงเปลือกมังคุด สีม่วงที่มืดและ สีม่วงไวน์ ส่วนตัวลายเป็นโทนสีเดียวกันแต่แตกต่างกันด้วยการทอ เพิ่มมิติ มีวอลลุ่ม ไม่ดูโบราณ มีฟอร์มสูทสั้นกับกางเกงขาบาน ทำให้ดูเด็กลง จับต้องได้ โดยการทำงานกับผ้าไทยไม่ยากมาก เพียงเลือกลายที่มีน้ำหนัก สีสอดคล้องกัน เวลาไปเลือกผ้าที่มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จะเห็นว่าผ้าไทยมีอีกหลายชนิดที่น่าหยิบใช้ เกิดไอเดียใหม่ๆ ให้ตัวเองอีกมาก เช่น มิกซ์มัดหมี่ลายกราฟฟิก กับผ้าไหมลายดอก เรารู้สึกภูมิใจที่ได้เลือกผ้าเอกลักษณ์ของคนไทย มาประยุกต์ จัดวางสัดส่วนลวดลายใหม่เปลี่ยนมุมมองว่าผ้าไทยไม่ล้าสมัย” ศิริชัย กล่าว

ต่อมาที่ ‘วิชระวิชญ์ อัครสันติสุข’ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แบรนด์ ‘วิชระวิชญ์’ เผยว่า สำหรับการออกแบบชุดนี้พยายามนึกถึงชีวิตของคนอีสานที่สนุกสนานเพราะตัวเราเองก็เป็นคนอีสาน เกิดที่ จ.บุรีรัมย์ มีพื้นเพวิถีชีวิตคนอีสานที่รักสนุก ชอบเสียงเพลง แม้จะเจออะไรที่ยากลำบากก็ยังสนุกสนานเต็มที่เมื่อมีการแสดงดนตรีเฉลิมฉลองต่างๆ

“แรงบันดาลใจหลักในคอลเลกชั่นนี้ อยากทำให้ทุกคนมีแรงบันดาลใจในการนำผ้าไทยพื้นบ้านเราไปใช้ต่อในชีวิตประจำวัน ผ้าที่ใช้ทั้งหมดจะเป็นผ้ามัดหมี่ โครงเสื้อเป็นชุดระบายเน้นความเรียบง่าย เด่นที่สีสันสนุกสนาน ทั้งชุดกระโปรงและมีแยกชิ้น ความท้าทายอยู่ที่การผสมสี โดยผ้าหลักๆ เราใช้เป็นผ้ามัดหมี่และมีผ้าทอพื้นเมืองด้วย ทุกชุดต้องมีการตัดต่อผ้าหลายชนิด เอาสิ่งที่มีอยู่มาผสมผสานกัน และสนุกกับการแมทช์คู่สี เพราะคนอีสานมีความสนุกอยู่ อย่างเวลาแต่งตัวไปงานวัดงานวา จะไม่สนใจเรื่องคู่สีเลย ขอให้รู้สึกสนุกไว้ก่อน” ดีไซเนอร์หัวใจอีสานเผยความหมายของคอลเลกชั่นพิเศษ

ปิดท้ายที่ ‘ชัย เจียมกิตติกุล’ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แบรนด์ ‘ชัย โกลด์เลเบล’ “คอลเลกชั่นนี้ชื่อว่าเจียระไน ซึ่งมาจากแนวคิดเรื่องการสร้างมิติให้กับชุดด้วยรูปทรงเรขาคณิตจนเกิดเป็นเหลี่ยมมุมเหมือนกับการเจียระไนเพชร ผ้าที่ใช้จะเป็นผ้าไหมมัดหมี่ โทนสีน้ำตาลทอง, ส้มอิฐ, เหลืองมัสตาร์ด จะออกเป็นแนวเอิร์ธโทน ทุกครั้งที่ทำงานกับผ้าไทยก็เหมือนเป็นการท้าทายความคิดสร้างสรรค์ตัวเอง

“พอได้ผ้ามาก็อยากทำอะไรให้น่าสนในมากขึ้น โดยทดลองนำผ้ามาปักลงบนผ้าตาข่ายอีกที ตัดผ้ามาปักเป็นชิ้นๆ ตามรูปทรงเรขาคนิต สี่เหลี่ยม วงกลม ให้มันทับกัน เพื่อสร้างมิติให้ชุดและตัวผ้า แนวคิดของเราเป็นเรื่องเกี่ยวกับอัญมณี การเจียระไน เหลี่ยมมุมของอัญมณี โครงเสื้อก็จะง่ายๆ ทรงปล่อยๆ ทำให้สวมใส่ง่ายใส่ได้ทุกรูปร่าง

โดยมีทั้งเสื้อผ้าเป็นชิ้นแยก และชุดกระโปรง ในอีกมุมหนึ่ง การที่เรียกคอลเลกชั่นนี้ว่า ‘เจียระไน’ ก็เพราะผ้าไทยเป็นสิ่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงรื้อฟื้นจากงานสมัยก่อนจากชาวบ้านที่เขาทำใช้กันเอง จนทำให้พวกเขาสามารถนำผ้าทอมาเป็นอาชีพเลี้ยงดูตัวเอง ก็เหมือนพระองค์ท่านมาเจียระไน ทำให้มันเพิ่มมูลค่า ผ้าไทยเปรียบเหมือนเพชรที่ท่านทรงเจียระไนให้แวววาวสวยงามขึ้นมา” ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์คนเก่งกล่าวทิ้งท้าย

นอกจากกิจกรรมการแสดงผลงานการออกแบบเครื่องแต่งกายในรูปแบบแฟชั่นโชว์จาก 4 ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง ทางสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ยังได้จัดนิทรรศการผ้าไทยร่วมสมัยพร้อมสาธิตการสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบเครื่องแต่งกายจากผ้าไทยโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาด้านสิ่งทอของไทยโดยนักออกแบบชาวไทยในวันที่ 2-14 สิงหาคมนี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สำรองที่นั่ง ติดต่อ 02-422-8827

นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากเครื่องสำอาง ‘แมค’ (M.A.C) ร่วมรังสรรค์ใบหน้าสวยเปล่งปลั่งเผยผิวเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์การสวมใส่ชุดจากผ้าไทยร่วมสมัยอย่างงดงาม

อัลบั้มภาพ แฟชั่นโชว์อวดโฉมผลงานการออกแบบชุดไทยร่วมสมัย จากดีไซเนอร์ 4 แบรนด์ดัง ภาพที่ 28 / 29

แฟชั่นโชว์อวดโฉมผลงานการออกแบบชุดไทยร่วมสมัย จากดีไซเนอร์ 4 แบรนด์ดัง

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

"ซีไอดีไอ ชนาพัฒน์” โชว์ศักยภาพดีไซเนอร์ไทย บนรันเวย์ระดับประเทศ งาน BIFW 2023

เปิดรันเวย์แฟชั่นใหญ่ที่สุดไทย Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2023

รวมลุคไฮไลต์จากรันเวย์ Silhouette ในงาน BIFW 2023

เมื่อเหล่านางงาม Miss Universe Thailand มาอยู่บนรันเวย์แฟชั่นสุดยิ่งใหญ่ BIFW2023