รู้หรือไม่! ไพรเมอร์ ดียังไง?

พอสาวๆ แต่งหน้าก็อยากจะให้เมคอัพติดอยู่บนหน้าทนนาน แต่ด้วยสภาพอากาศบ้านเราที่ร้อนอบอ้าวเสียเหลือเกิน ไหนจะเหงื่อ ไหนจะความมัน อุตส่าห์แต่งหน้ามาซะจัดเต็มแบบนี้ เครื่องสำอางต้องไหลเหนอะหนะใบหน้าหว่างวันแน่ๆ เคล็ดลับที่สาวๆ ต้องรู้ คือ การใช้ไพรเมอร์ลงก่อนที่จะเริ่มแต่งหน้า ไม่ใช่แค่เพียงช่วยให้เครื่องสำอางอยู่ติดทนนานเท่านั้น แต่ไพรเมอร์ก็ยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆ ด้วย ลองมาดูกัน!

1. ไพรเมอร์ ใช้ได้กับทุกสภาพผิว
เนื่องจากว่าสาวๆ จะต้องลงไพรเมอร์เป็น Base อยู่แล้ว จึงให้ประสิทธิภาพต่างๆ ที่มีอยู่ในตัวได้กับทุกสภาพผิวเชียวล่ะ อีกทั้งก็ยังเข้ากันได้กับทุกสีผิวด้วยนะ เพราะตัวเนื้อของไพรเมอร์จะไม่มีสี ทารองไว้ก็ไม่กระทบกับตัวเครื่องสำอางแน่นอน

2. ไพรเมอร์ ให้เนื้อสัมผัสที่บางเบา
ถ้าสาวๆ คนไหนที่กำลังมีความคิดว่าการลงไพรเมอร์จะยิ่งทำให้หน้าของเราหนักขึ้นล่ะก็ขอให้ลองคิดใหม่ เพราะการลงไพรเมอร์เยอะก็จะยิ่งให้ความรู้สึกว่าการลงเครื่องสำอางไปที่หน้าของเรานั้นเบาบางขึ้น ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น ส่วนการลงเครื่องสำอางที่หนักเกินไม่ได้อยู่ที่ว่าเราทาลงไปกี่ชั้น แต่มันขึ้นอยู่การเกลี่ยให้เรียบ ถ้าเกลี่ยให้ดีก็จะได้หน้าในลุคเบาๆ ดูสวย ไม่ทำให้รำคาญหน้าเวลาเฉิดฉาย

3. ไพรเมอร์ ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น
โดยหลักแล้วไพรเมอร์นั้นไม่ได้มีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยนะ แต่เจ้าไพรเมอร์นี่แหละที่จะช่วยเติมเต็มริ้วรอยต่างๆ ให้ดูตื้นขึ้นได้เป็นอย่างดี การแต่งหน้าเบาๆ เข้าไปเพิ่มก็ช่วยทำให้ลุคของเราดูใส และดูอ่อนเยาว์ขึ้นมาได้มากทีเดียว

4. ไพรเมอร์ ช่วยปกปิดรูขุมขน
ข้อนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ที่สาวๆ น่าจะเห็นได้ชัด หากว่าสาวๆ เลือกใช้รองพื้นแบบน้ำ ต่อให้รูขุมขนบนหน้าจะเล็กขนาดไหน แต่เมื่อใช้รองพื้นแบบน้ำก็จะทำให้รูขุมขนชัดขึ้นมาอยู่ดี หากว่าลองเปลี่ยนมาลงไพรเมอร์ก่อน แล้วลงรองพื้นแบบน้ำคู่ลงไป ก็จะช่วยปกปิดรูขุมขนที่เห็นชัดได้ดีขึ้นกว่าเดิม ผิวหน้าจะเรียบเนียนแบบไม่ต้องสงสัย

5. ไพรเมอร์ ช่วยให้ผิวนุ่มขึ้น
ถ้าแค่บอกเฉยๆ ก็กลัวว่าสาวๆ จะไม่เชื่อ อยากลองใช้ดูก่อน แล้วมาสัมผัสที่หน้าแล้วจะพบว่าผิวมีความนุ่มและเรียบเนียนขึ้น ช่วยให้ผิวของเราดีขึ้นได้ทันตาเชียวล่ะ

 

6. ไพรเมอร์ ช่วยให้เมคอัพติดทนนาน
ข้อดีข้อนี้เห็นได้ชัดสุด ! เพราะการใช้ไพรเมอร์จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เครื่องสำอางของเราติดทนนาน นับว่าเป็นคุณสมบัติเด่นที่ช่วยไม่ให้เมคอัพไหลเยิ้มในระหว่างวัน นอกจากนั้น ไพรเมอร์ก็ยังช่วยป้องกันผิวหน้าจากน้ำและฝุ่นละออง รวมถึงไม่ทำให้เมคอัพที่เราจัดเต็มมาหลุดง่ายอีกด้วยนะ

7. ไพรเมอร์ ช่วยลดรอยแดงบนใบหน้า
สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีปัญหาเรื่องของรอยแดง ปัญหาสิว หรือการแพ้อากาศจนทำให้หน้าสวยๆ ของเราเกิดรอยแดงเป็นจ้ำ เจ้าไพรเมอร์นี่แหละที่จะช่วยลดรอยแดงต่างๆ บนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ ไพรเมอร์ยังช่วยได้มากในเรื่องของการแต่งหน้าเพื่อปกปิด ทำให้เครื่องสำอางไม่หลุด เนียน สวย

ข้อแนะนำก่อนลงไพรเมอร์สำหรับสาวๆ ที่มีรูขุมขนกว้าง 

สาวๆ ที่มีรูขุมขนกว้างมักจะมีอุปสรรคในเรื่องของการแต่งหน้าอยู่เสมอ ครั้นจะหาผลิตภัณฑ์ตัวไหนมาช่วยบำรุง หรืออำพรางผิวให้แลดูเรียบเนียน ปกปิดรูขุมขนได้มากขึ้นก็ดูจะเป็นไปได้ยาก หนำซ้ำ ผลิตภัณฑ์เพื่อการแต่งหน้าบางตัวที่สาวๆ คิดว่าจะช่วยปกปิดได้ กลับกลายเป็นไปช่วยเน้นให้เห็นรูขุมขนที่กว้างได้ชัดขึ้นก็ดูจะแย่ไปกันใหญ่ วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำกันเพิ่มเติมในเรื่องของการบำรุงผิว ก่อนลงไพรเมอร์ และเริ่มการแต่งหน้าไปตามลำดับ เพื่อให้รูขุมขนที่ใหญ่ดูเล็กลงและเรียบเนียนอย่างได้ผล

1. บำรุงและดูแล

การบำรุงผิวหน้าด้วยครีม หรือผลิตภัณ์ที่ช่วยปรับสภาพผิวหน้าและรูขุมขนให้กระชับขึ้นอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ การมาร์คหน้าด้วยโคลนจึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่อยากจะแนะนำ เพราะโคลนนั้นจะช่วยดูดซับความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนได้อีกด้วย ยิ่งถ้าใบหน้าของสาวๆ มีความมันน้อยลงเท่าไหร่ รูขุมขนของเราก็จะยิ่งกระชับมากขึ้นไปเท่านั้นด้วย

เพิ่มเติม สำหรับโคลนที่นำมามาร์คหน้าจะเลือกใช้เป็นสีอะไรก็ได้ตามใจชอบ โดยการมาร์คหน้าด้วยโคลนนี้จะมีความอ่อนโยนมากกว่าการทำสครับ ซึ่งถึงแม้ว่าการทำสครับนั้นจะช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ก็จริง แต่การขัดผิวด้วยสครับบ่อยๆ ก็อาจเป็นการรบกวนผิวมากจนเกินไป เผลอๆ จะไปกระตุ้นให้รูขุมขนให้กว้างขึ้นอย่างไม่รู้ตัว สรุปแล้ว ควรมาร์คหน้าด้วยโคลนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งกำลังพอดี

2. เตรียมผิวก่อนเริ่มการแต่งหน้า

สาวๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่าการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นจะช่วยให้รูขุมขนของเรากระชับขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีเคล็ดลับอีกหนึ่งอย่างหลังจากการล้างน้ำเย็นและก่อนแต่งหน้า นั่นคือการนำเอาน้ำแข็งมาประคบให้ทั่วใบหน้าก่อนประมาณ 5 นาที เพื่อเป็นการช็อตรูขุมขน ทำให้รูขุมขนหดเล็กลง ที่สำคัญ ยังทำให้หน้าของเรามันเยิ้มช้าอีกด้วยนะ ต่อจากนั้นก็เริ่มแต่งหน้าได้ตามปกติแล้วล่ะ

3. จุดเปลี่ยนเมื่อลงมือแต่งหน้า 

ใครว่าการแต่งหน้าโดยใช้อุปกรณ์เป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ อาจจะจริงอยู่ที่ว่าการใช้นิ้วมือเกลี่ยครีม หรือรองพื้น ความร้อนที่ออกมาจากปลายนิ้วจะช่วยให้ครีมซึมลงบนผิวหน้าและกระจายตัวกันได้เป็นอย่างดี อยากให้ลองมองในอีกด้าน เปลี่ยนจากการใช้มือมาเป็นแปรงแต่งหน้าแทน อย่างการใช้แปรงสำหรับทารองพื้นมาลงไพรเมอร์ จะช่วยทำให้การเกลี่ยไพรเมอร์ซอกซอนเข้าไปในชั้นรูขุมขนได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะมีรูขุมขนที่เล็ก หรือว่าใหญ่ แปรงแต่งหน้าสามารถทำหน้าที่นี้ได้ดีกว่าการใช้นิ้วมือ เมื่อลงไพรเมอร์เสร็จเรียบร้อยก็ให้ถูฝ่ามืออุ่นๆ แล้วค่อยๆ กดประคบลงไปให้ทั่วใบหน้าเพื่อให้ไพรเมอร์กลืนลงไปกับผิวและเซ็ตตัวได้ดียิ่งขึ้น

4. ตัวช่วยเพื่อใบหน้าที่เนียนใส

เมื่อลงไพรเมอร์เสร็จเรียบร้อย คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนการลงรองพื้นกันแล้ว ในขั้นนี้สาวๆ สามารถเลือกได้ว่าจะลงด้วยมือ หรือลงด้วยแปรง ต่อมาเพื่อความเป๊ะปังก็ขอแนะนำให้ใช้ตัวช่วยเสริมเมื่อลงรองพื้นอย่าง พัฟฟองน้ำรูปทรงไข่ จะดีกว่า ง่ายๆ เพียงเอาพัฟฟองน้ำไปชุบน้ำแล้วบิดให้หมาดๆ จากนั้นนำมากดให้ทั่วใบหน้าอีกครั้งเพื่อเป็นการเกลี่ยรองพื้นให้บางและกระจายทั่วหน้าเท่าๆ กัน เพียงเท่านี้เมื่อแต่งหน้าก็จะมั่นใจได้ว่าผิวหน้าของเราจะเรียบเนียนกระจ่างใส ไม่มีปัญหาเรื่องรูขุมขนใหญ่มากวนใจอีกแล้วล่ะ

นี่ก็เป็นข้อดีของไพรเมอร์ในด้านต่างๆ ที่สาวๆ ควรต้องรู้ เพราะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้การแต่งหน้าของเราอยู่ได้ตลอดทั้งวัน ที่สำคัญ ไม่ทำให้หนักหน้าด้วย เหมาะมากสำหรับคนที่อยากสวยในพื้นแผ่นดินที่เป็นเมืองร้อนแบบนี้ ใช้แล้วเครื่องสำอางไม่ไหลย้อยอย่างแน่นอน

7 ไพรเมอร์ในราคาเอื้อมถึงที่สาวๆ ต้องลอง !